วันพุธที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2556

ทำความรู้จัก 12 เขื่อนสูงที่สุดจากทั่วมุมโลก



  เขื่อนเป็นสิ่งก่อสร้างที่เกิดมาจากความอุตสาหะและความชาญฉลาดของมนุษย์ ซึ่งบางแห่งก็สร้างขึ้นเพื่อใช้ควบคุมแม่น้ำป้องกันอุทกภัยในระดับหนึ่ง ในขณะที่บางที่ทำขึ้นเพื่อกักเก็บน้ำเอามาหมุนเวียนใช้เป็นพลังงาน ทำให้แต่ละที่มีขนาดเล็กใหญ่แตกต่างกันไป มิหนำซ้ำยังมีนักออกแบบมากมายที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ทำให้เขื่อนแบบเดิม ๆ สวยงามยิ่งขึ้นจนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวไปได้อีกด้วย 

          แล้วคุณเคยสงสัยบ้างหรือเปล่าว่า เขื่อนแห่งไหนกันที่จะมีขนาดสูงที่สุดในโลก ซึ่งถ้าคุณอยากรู้ล่ะก็ วันนี้กระปุกดอทคอมได้เอาคำตอบมาฝากคุณแล้ว มาดูกันเลยดีกว่าว่าเขื่อนที่สูงที่สุดในโลก 12 อันดับ มาจากที่ไหนกันบ้าง



 1. เขื่อน Nurek, สาธารณรัฐทาจิกิสถาน

          บริเวณแม่น้ำ Vakhsh สาธารณรัฐทาจิกิสถาน ซึ่งนับเป็นประเทศที่เล็กที่สุดในเอเชียกลาง แถมยังขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในสหภาพโซเวียตอีกด้วย แต่มันกลับเป็นบ้านเกิดของเขื่อนที่สูงที่สุดในโลกด้วยความสูงราว 300 เมตรนี้ โดยสหภาพโซเวียตสร้างมันขึ้นตั้งแต่ปี 1961 ก่อนจะเสร็จสิ้นในปี 1980 และติดตั้งเครื่องไฮโดรอิเล็คทริคไว้ถึง 9 อันด้วยกัน เพื่อใช้ในการหมุนเวียนพลังงาน แถมน้ำที่กักเก็บไว้ในเขื่อนยังมากที่สุดในสาธารณรัฐทาจิกิสถาน ทำให้มันเป็นแหล่งสร้างพลังงานน้ำที่ใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ของโลกเลยทีเดียว 


 2. เขื่อน Xiaowan, ประเทศจีน

          มาต่อด้วยเขื่อนอันดับ 2 ซึ่งมาจากทวีปเอเชียเช่นเดียวกัน ซึ่งก็คือประเทศมหาอำนาจอย่างจีนนั่นเอง โดยมันถูกสร้างขึ้นเพื่อหมุนเวียนพลังงานน้ำเป็นหลักในเดือนมกราคมปี 2002 เขื่อนบริเวณแม่น้ำโขง มณฑลยูนนาน ทางตอนใต้ของประเทศจีนแห่งนี้ จึงได้ติดตั้งเครื่องไฮโดรอิเล็คทริคที่มีประสิทธิภาพการทำงาน 700 MW ต่อยูนิตเอาไว้ด้วย ในขณะที่มีความสูงของเขื่อนอยู่ที่ 292 เมตร



 3. เขื่อน Grande Dixence, ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

          ข้ามมาทางฝั่งยุโรปกันบ้าง โดยเขื่อน Grande Dixence นี้มีความสูงอยู่ที่ 285 เมตร ตั้งอยู่ในหุบเขา Val d'Hérens ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และแม้มันจะไม่ได้สูงที่สุดในโลก แต่หากนับเฉพาะเขื่อนคอนกรีตแบบถ่วงน้ำหนักด้วยกันแล้วล่ะก็ เขื่อนแห่งนี้จะเป็นเขื่อนคอนกรีตแบบถ่วงน้ำหนักที่สูงเป็นอันดับ 1 ของโลกเลยทีเดียว




 4. เขื่อน Inguri, ประเทศจอร์เจีย

          เขื่อนบริเวณแม่น้ำ Inguri แห่งนี้เป็นเขื่อนสูงอันดับ 4 ของโลก รวมทั้งเป็นเขื่อนสร้างจากคอนกรีตที่สูงเป็นอันดับ 2 ในเวลาเดียวกัน ด้วยความสูง 272 เมตร ซึ่งนอกจากมันจะเป็นเขื่อนขนาดใหญ่ที่บรรจุน้ำเอาไว้แปรเป็นพลังงานได้มากมายมหาศาลแล้ว ทิวทัศน์ที่เขียวชอุ่มโอบล้อมด้วยภูเขารอบข้าง ยังทำให้มันเป็นหนึ่งในเขื่อนที่งดงามควรค่าแก่การเยี่ยมชมสักครั้งอีกด้วย




 5. เขื่อน Vajont, ประเทศอิตาลี

          นับแต่ปี 1959 เขื่อนที่ตั้งอยู่บริเวณแม่น้ำ Vajont ทางตอนเหนือของกรุงเวนิส ในประเทศที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ความโรแมนติกอย่างอิตาลี ก็กลายมาเป็นหนึ่งในภาพคุ้นตามาตลอด แม้ปัจจุบัน มันจะไม่ได้ถูกใช้งานแต่อย่างใดแล้วก็ตาม แถมเมื่อปี 1963 ยังเกิดเหตุน่าเศร้าเมื่อดินถล่มทำให้มีคนตาย ณ ที่นั่นกว่า 2 พันคนอีกด้วย แต่ถึงอย่างนั้น มันก็ยังคงเป็นเขื่อนที่สูงเป็นอันดับ 5 ของโลกด้วยความสูง 262 เมตร อยู่ดี



 6. เขื่อน Manuel Moreno Torres, ประเทศเม็กซิโก

          หรืออีกชื่อว่า Sumidero Canyon แห่งนี้ เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประเทศเม็กซิโกเลยก็ว่าได้ เพราะมันไม่ได้เป็นเพียงแค่เขื่อนกักเก็บน้ำธรรมดาทั่วไปเท่านั้น แต่เขื่อนสูง 261 เมตรแห่งนี้ เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าตามธรรมชาติมากมาย รวมไปถึงจระเข้ด้วย มันจึงเป็นตัวดึงดูดให้นักท่องเที่ยวรักธรรมชาติทั้งหลายแห่แหนกันมาเที่ยวในสถานที่แห่งนี้


 7. เขื่อน Tehri, ประเทศอินเดีย

          หากจะมองหาเขื่อนที่เกิดมาเพื่อถูกใช้งานจริงล่ะก็ เขื่อนหินบริเวณแม่น้ำ Bhagirathi แห่งนี้น่าจะใกล้เคียงกับคำนั้นมากที่สุด เพราะทำหน้าที่เป็นแหล่งพลังงานน้ำให้ทั้ง Tehri Hydro Development Corporation Ltd. และ the Tehri hydroelectric complex จึงเรียกได้ว่ามันมีส่วนสำคัญสำหรับการเติบโตทางด้านธุรกิจของประเทศอินเดียอยู่ไม่น้อย โดยเขื่อนแห่งนี้มีความสูงใกล้เคียงกับเขื่อน Manuel Moreno Torres ที่ 261 เมตร และห่างกันเพียง 2 ฟุตเท่านั้น




 8. เขื่อน Mauvoisin, ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

          มองเผิน ๆ เขื่อนสูง 250 เมตรนี้อาจจะดูเหมือนแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ที่ปราศจากสิ่งก่อสร้างด้วยฝีมือมนุษย์โดยสิ้นเชิง แต่ที่จริงแล้วมันเป็นเขื่อนประตูโค้งที่สูงเป็นอันดับ 3 ของโลกเลยทีเดียว แต่เมื่อมาถึงแล้ว คนอาจลืมมองที่กั้นเขื่อนไปเลยก็ได้ เพราะภาพน้ำสีฟ้าใสสะอาดที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดีตัดกับภูเขาที่โอบล้อม เกิดเป็นทัศนียภาพงดงามเหมือนภาพเขียนเลยทีเดียว



 9. เขื่อน Laxiwa, ประเทศจีน

          ใช่ว่าประเทศมหาอำนาจอย่างจีนจะมีเขื่อนสูงใหญ่เพียงแค่เขื่อน Xiaowan แห่งเดียวเท่านั้น เพราะเขื่อน Laxiwa ในแม่น้ำ Yellow ที่เซี่ยงไฮ้ ก็ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กันเลย โดยมันมีความสูงอยู่ที่ 250 เมตร และติดตั้งเครื่องไฮโดรอิเล็คทริคที่มีประสิทธิภาพการทำงาน 700 MW ต่อยูนิตถึง 6 เครื่อง ทำให้มีกำลังการทำงานมากจนเป็นแหล่งพลังงานหลัก ๆ ของเซี่ยงไฮ้ไปโดยปริยาย

 10. เขื่อน Deriner, ประเทศตุรกี

          ณ ตอนใต้ของเมือง Artvin บริเวณแม่น้ำ Çoruh ประเทศตุรกี คือที่ตั้งของเขื่อนทรงโค้งสูง 249 เมตร ที่สร้างจากคอนกรีต 2 ชั้น และมันก็เป็นเขื่อนอีกแห่งที่มีจุดประสงค์ในการสร้างเพื่อใช้เป็นแหล่งพลังงานเช่นกัน โดยตอนนี้มันยังอยู่ในระหว่างการสร้าง หลังจากเริ่มต้นลงมือเมื่อปี 1998 และได้เริ่มบรรจุน้ำเข้าไปในปี 2012 ที่ผ่านมานี้เอง และคาดว่าจะสำเร็จเรียบร้อยภายในปีนี้


 11. เขื่อน Alberto Lleras, สาธารณรัฐโคลอมเบีย

          ท่ามกลางทิวทัศน์ธรรมชาติแสน สวยบนแม่น้ำ Guavio สาธารณรัฐโคลอมเบียแห่งนี้ คือเขื่อน Alberto Lleras สูง 243 เมตร ที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1989 และมีเครื่องไฮโดรอิเล็คทริคที่มีประสิทธิภาพการทำงาน 1,150 MW ต่อยูนิตติดตั้งเอาไว้ด้วย ดังนั้น ประสิทธิภาพเรื่องการหมุนเวียนสร้างพลังงานจากน้ำคงไม่ต้องสงสัยกันเลยล่ะ


 12. เขื่อน Mica, ประเทศแคนาดา

          และแล้วก็มาถึงอันสุดท้าย ซึ่งก็คือเขื่อน Mica สูง 243 เมตร บนแม่น้ำโคลัมเบียอันงดงามของรัฐบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา โดยชื่อของมันมาจาก Mica Creek หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ตอนนี้จมลงไปใต้น้ำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำให้ชาวบ้านย้ายไปอยู่ในที่สูงกว่าเดิม ต่อมาเมื่อปี 2005 หมู่บ้านนี้ก็ไม่มีคนอาศัยอยู่อีก แม้จะยังคงมีตัวบ้านแบบเก่าหลงเหลือไว้ให้คนรุ่นหลังได้ดูเหลืออยู่บ้างก็ตาม และเมื่อเขื่อนประกอบกับภาพหมู่บ้านเก่ามาอยู่ด้วยกัน มันจึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ควรค่าแก่การไปเยี่ยมเยียนไม่น้อยเลยล่ะ


          ทั้งนี้ กว่าจะเกิดเป็นเขื่อนสูงตระการตาแบบนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลยทีเดียว เพราะต้องใช้เวลาสร้างอยู่นาน ต่อมาก็ต้องบำรุงรักษาอยู่ตลอด แล้วไหนจะต้องทุ่มงบเป็นเงินมหาศาลอีก มันจึงเป็นหน้าที่ของคนรุ่นหลังอย่างเรา ที่ต้องช่วยกันดูแลรักษาสถาปัตยกรรมที่มีค่าแบบนี้เอาไว้ให้ลูกหลานได้ชื่นชมต่อไปนะคะ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น