วันพฤหัสบดีที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2556

เปิดรีสอร์ทหรูริมแม่น้ำของนักร้องหนุ่มสุดเซอร์ ฮิวโก้ จุลจักร จักรพงษ์

ที่นี่เป็นหนึ่งในรีสอร์ทยอดนิยมของนักเดินทางชาวต่างชาติที่มาเยือนกรุงเทพฯ และมีเจ้าของเป็นนักร้องหนุ่มสุดหล่อ ฮิวโก้ จุลจักร จักรพงษ์ ลูกชายคนโตของ ม.ร.ว.นริศรา จักรพงษ์ นั่นเอง



จักรพงษ์วิลล่า ในอดีตเป็นวังเก่าแก่สมัยรัชกาลที่ 5 ตั้งอยู่ในเขตพระบรมมหาราชวัง เคยเป็นที่ประทับของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ พระโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งปัจจุบันอยู่ในความดูแลของหม่อมราชวงศ์นริศรา จักรพงษ์ ปัจจุบันวังแห่งนี้ได้เปิดต้อนรับให้นักท่องเที่ยวให้เข้ามาสัมผัสกับประวัติศาสตร์อันงดงามและแบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งเป็นที่พักสำหรับต้อนรับนักท่องเที่ยว บ้านไทยริมน้ำของที่นี่ได้รับการตกแต่งแบบไทยร่วมสมัย บ้านสองชั้นตกแต่งใหม่ให้มีกลิ่นอายความเป็นจีน และบ้านหลังล่าสุดที่เปิดให้เข้าพักเคยเป็นที่อยู่ของ ฮิวโก้ จุลจักร จักรพงษ์ ห้องพักทุกห้องครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกสบาย อาทิ ฝักบัว, พื้นที่นั่งเล่น, เสื้อคลุมอาบน้ำ, เครื่องชงกาแฟ/ชา, ห้องน้ำรวม รวมทั้งกิจกรรมนันทนาการสุดพิเศษมากมาย เช่น ห้องฟิตเนส, สระว่ายน้ำกลางแจ้ง อีกทั้งรอบรีสอร์ทยังปกคลุมไปด้วยแมกไม้และวิวทิวทัศน์ที่ให้สัมผัสแบบย้อนยุคได้เป็นอย่างดี และใกล้แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังมากมาย เช่น วัดโพธิ์, ปากคลองตลาด, วัดอรุณ เป็นต้น

ที่ตั้ง:ถนนมหาราช ท่าเตียน กรุงเทพฯ

โทรศัพท์ 0-2622-3356-8

เว็บไซต์: www.thaivillas.com

เปิดรีสอร์ทสุดน่ารักของคุณตัน ภาสกรนที อาลีบาบา รีสอร์ท ปราณบุรี

หนาวนี้ใครกำลังวางแผนไปเที่ยวทะเลปราณบุรี ขอแนะนำ อาลีบาบารีสอร์ท (Ali Baba Boutique Resort) ที่พักสไตล์อาราเบียน ของ คุณตัน ภาสกรนที ที่อยู่ใกล้หาดปราณบุรีแค่นิดเดียว




อาลีบาบารีสอร์ท (Ali Baba Boutique Resort) โดดเด่นด้วยการออกแบบสีสันสดใส กำแพงทาสีสดสไตล์อาราเบียน ผสมผสานการบริการแบบไทยๆ ห้องพักทุกห้องเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยสะดวกพร้อมสรรพ มาพักผ่อนแล้วจะออกไปตกปลา ขี่จักรยาน เล่นน้ำทะเล หรืออยากนั่งพักผ่อนชมวิวขุนเขาเมืองปราณ ก็สามารถมาสัมผัสได้ที่รีสอร์ทน่ารัก ราคาเป็นกันเองแห่งนี้
ที่ตั้ง: ตำบลปากน้ำปราณ อำเภอปราณบุรี
ราคา: 1,500- 2,500 บาท
โทร. 0 3263 0570
เว็บไซต์: www.alibabaresort.com

เปิดรีสอร์ทบรรยากาศสุดชิลล์ของนักแสดงหนุ่มอารมณ์ดี ทีน-สราวุฒิ พุ่มทอง

อากาศดีๆ แบบนี้หลายคนที่กำลังวางแผนไปเทียวทะเลแสนเงียบสงบแถวหาดเจ้าสำราญ จ. เพชรบุรี และมองหาที่สบายๆ สำหรับครอบครัว หรือแก็งค์เพื่อนๆ อยู่ สนุก! ท่องเที่ยว ขอแนะนำรีสอร์ทเปิดใหม่ล่าสุด ที่มีเจ้าของเป็นนักแสดงและพิธีกรหนุ่มอารมณ์ดี ทีน-สราวุฒิ พุ่มทอง ชาวจังหวัดเพชรบุรี ที่กลับมาเปิดที่พักในบ้านเกิดตัวเอง



บ้านจันทร์แสงทอง เป็นพักตากอากาศบรรยากาศสบายๆ และอยู่ใกล้ทะเลแค่นิดเดียว เหมาะสำหรับมาพักผ่อนในช่วงวันสุดสัปดาห์ นั่งสังสรรค์ ปาร์ตี้อาหารทะเล ที่แค่นึกภาพตามก็สนุกไม่เบาแล้ว การเดินทางไปก็ไม่ยาก เมื่อขับรถถึงกลางเมืองเพชรบุรี แถวโรงพยาบาลเพชรรัตน์ จะเห็นโรงงานไฟฟ้าเล็กๆ ที่มีป้ายบอกทางชี้ไปหาดเจ้าสำราญ จากนั้นวิ่งตรงไปเรื่อยๆ จนสุดทางถนน ก็จะเห็นป้ายหาดเจ้าสำราญ แล้วเลี้ยวซ้ายไปประมาณ 1.5 กิโลเมตร ก็จะเจอบ้านจันทร์แสงทอง อยู่ทางซ้ายมือ



ที่ตั้ง: หาดเจ้าสำราญ อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี
โทร.08-2333-8642
หรือ www.facebook.com/baanchansangthong

ขอบคุณภาพจาก: www.facebook.com/baanchansangthong

5 ที่เที่ยวธรรมชาติสวยสะดุดตาในภาคกลาง

หนาวนี้หากใครยังไม่มีโปรแกรมไปเที่ยวกอดลมหนาวที่ภาคเหนือ ลองใช้เวลาวันหยุดสั้นๆ มาสัมผัสลมหนาวใกล้ๆ ที่ภาคกลาง ขอบอกว่า สวยเด็ดไม่แพ้กันเลยนะ

1.เขาช้างเผือก จ.กาญจนบุรี เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ  จังหวัดกาญจนบุรี โดยมีความสูงถึง 1,249 จากระดับน้ำทะเล  การเดินทางขึ้นสู่ยอดเขาช้างเผือกนั้นใช้การเดินเท้าในระยะทางประมาณ 8-9 กิโลเมตร ซึ่งเส้นทางนั้นจะเป็นเส้นทางที่ลัดเลาะยอดเขาต่างๆ แต่ตลอดเส้นทางสามารถชมวิวทิวทัศน์สวยๆ ได้ตลอดเส้นทาง และมีจุดกางเต็นท์เพียงจุดเดียวที่ กิ่วลม เท่านั้น


2.เขากระโจม จ.ราชบุรี เป็นยอดเขาสุดเขตชายแดนระหว่างไทย-พม่า ตั้งอยู่ในแนวเทือกเขาตะนาวศรี มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,045 เมตร บริเวณนี้เป็นที่อาศัยของของชุมชนชาวกะเหรี่ยง ซึ่งอพยพมาจากเมืองทวายประเทศพม่า ชาวกะเหรี่ยงเรียกยอดเขานี้ว่า "เขาลันดา" ซึ่งหมายถึง ภูเขาที่มีที่ราบ ส่วนชื่อ "เขากระโจม" นั้นได้รับฉายามาจากคนไทยที่เข้าไปทำเหมืองแร่ แล้วมองเห็นยอดเขาดูดล้ายกระโจมของชนเผ่าอินเดียนแดงนั่นเอง



3.เขาจีนแล จ.ลพบุรี เที่ยวชมทุ่งทานตะวันในฤดูหนาว สายลมเย็นและแสงแดดอ่อนยามเช้าที่คลอเคลียหยอกเย้ากับทุ่งทานตะวันจะช่วยกล่อมเกลาความงามของธรรมชาติให้โชติช่วงขึ้นอีกหลายเท่าตัว ตราบเท่าที่ความโรแมนติกยังคงตลบอบอวลอยู่ในทุ่งทานตะวันของเขาจีนแลแห่งนี้



4.เขาเทวดา จ.สุพรรณบุรี ชมทิวทัศน์ที่สวยงามบนยอดเขาเทวดา ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของเมืองสุพรรณบุรี ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติพุเตย ยิ่งในคืนฟ้าเปิดเราก็สามารถนอนดูดาวได้อย่างชัดเจน และจากจุดนี้ในช่วงเช้านักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นไปบนยอดเขาเทวดาเพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้น ท่ามกลางหุบเขาสลับซับซ้อนสุดลูกหูลูกตา และหมอกสีขาวล่องลอยราวปุยนุ่นได้อีกด้วย




5.เขาพะเนินทุ่ง จ.เพชรบุรี ในพื้นที่อุดมไปด้วยผืนป่าแห่งนี้มีทะเลหมอกคือไฮไลน์ของที่นี่ บอกได้เลยว่าไม่จำเป็นต้องไปถึงยอดภูที่ภาคเหนือมาที่นี่ก็เห็นแล้ว ภาพทะเลหมอกหนาๆ ลอยละเลียดแนวเขาสลับซับซ้อนเป็นวิวที่สวยมากๆ เลยขอบอก


กะตะกรุ๊ป เปิดตัว บียอน รีสอร์ท กะรน

บียอน รีสอร์ท กะรน ในเครือ กะตะกรุ๊ป รีสอร์ท ประเทศไทย เตรียมอวดรูปโฉมใหม่งดงามสมการรอคอยพร้อมกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง หลังปิดปรับปรุงโรงแรมครั้งใหญ่ในส่วนห้องพัก, ห้องอาหาร, บาร์ และลอบบี้ พร้อมต้อนรับผู้มาเยือนด้วยคอนเซ็ปต์ " รีสอร์ทหรูริมหาดสุดแสนโรแมนติคและเป็นส่วนตัว" มุ่งเน้นนักท่องเที่ยวที่แสวงหาที่พักผ่อนเพื่อดื่มด่ำกับช่วงเวลาพิเศษกับคนรัก



หลังจากการปรับปรุงแล้วเสร็จ บียอน รีสอร์ท กะรน มีจำนวนห้องพักทั้งหมด 80 ห้อง ซึ่งได้รับการออกแบบใหม่เพื่อนำเสนอความหรูหราในระดับสากล พร้อมมอบความรู้สึกอบอุ่น โรแมนติก ให้กับคู่รักผู้มาเยือนด้วยการตกแต่งอย่างร่วมสมัยและมีสไตล์มากยิ่งขึ้น และเพื่อสร้างความโรแมนติกอย่างสมบูรณ์แบบ บียอน รีสอร์ท กะรนจัดได้ว่าเป็นรีสอร์ทแห่งเดียวที่ตั้งอยู่บนชายหาดกะรนและมีนโยบายให้คู่รักที่เข้าพักต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี

ทั้งนี้ด้วยการออกแบบให้ทุกห้องพักหันหน้าเข้าสู่หาดกะรน และเห็นวิวทะเลอันดามัน ทำให้ห้องพักทุกห้องของ บียอน รีสอร์ท กะรน สามารถมองเห็นวิวท้องทะเลอันดามันได้อย่างชัดเจน พร้อมทั้งมีห้องพักแบบมาตรฐานให้บริการ 2 แบบ ได้แก่ Twin Deluxe Seaview , Double Deluxe Seaview ซึ่งแต่ละห้องมีพื้นที่ขนาด 33 ตารางเมตร พร้อมทั้งห้องใหญ่พิเศษ 2 แบบเหมาะสำหรับคู่รักที่ชอบพื้นที่กว้างกวาง ได้แก่ Gland Deluxe room มีพื้นที่ขนาด 53.86 ตารางเมตร Junior Suite room มีพื้นที่ขนาด 58.88 ตารางเมตร พร้อมรองรับผู้เข้าพักเพื่อการพักผ่อนที่สมบูรณ์แบบ

บียอน รีสอร์ท กะรน จ.ภูเก็ต ตั้งอยู่ใจกลางแหล่งช้อปปิ้งและความบันเทิงชั้นนำ และสามารถเดินทางจากสนามบินโดยรถยนต์เพียง 49 กิโลเมตร เพื่อเข้าสู่บียอน รีสอร์ท กะรน และใช้เวลาเดินจากโรงแรมเพียงไม่นานเพื่อไปยังสถานีขนส่งประจำจังหวัด

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 076-330-006-8 l 076-330-217-8

งานนมัสการพระพุทธโสธรและงานประจำปีจังหวัดฉะเชิงเทรา ประจำปี 2556

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานกรุงเทพมหานคร ร่วมกับจังหวัดฉะเชิงเทรา กำหนดจัดงานนมัสการพระพุทธโสธรและงานประจำปีจังหวัดฉะเชิงเทรา ประจำปี 2556 ในระหว่างวันที่ 14-23 พฤศจิกายน 2556 ณ สนามหน้าศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา



นางปานจิตร สันทัดกลการ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานกรุงเทพมหานคร กล่าวว่าในแต่ละปีได้มีพุทธศาสนิกชนที่มีจิตศรัทธาจำนวนมากเดินทางมานมัสการหลวงพ่อโสธร พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองแปดริ้ว ซึ่งด้วยบุญญาภินิหารของท่านได้คุ้มครองชาวจังหวัดฉะเชิงเทราให้อยู่เย็นเป็นสุขมาช้านาน

การจัดงานนมัสการหลวงพ่อพระพุทธโสธรจึงได้จัดต่อเนื่องกันมานับร้อยปี จนกลายเป็นงานประเพณีประจำปีที่สำคัญของจังหวัดฉะเชิงเทรา การจัดงานนมัสการหลวงพ่อพระพุทธโสธรและงานประจำปีจังหวัดฉะเชิงเทรา ประจำปี 2556 มีกำหนดจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 14- 23 พฤศจิกายน 2556 ณ บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา รวมระยะเวลาจัดงานถึง 10 วัน 10 คืน โดยวันที่ 14 พฤศจิกายน 2556 จะมีการจัดพิธีบวงสรวง องค์หลวงพ่อโสธรตามแบบโบราณประเพณีด้วยเครื่องสังเวยชุดใหญ่และไข่ไก่ต้ม 109,999 ฟอง ในเวลาประมาณ 09.00 น. หลังจากนั้นจึงอัญเชิญ องค์หลวงพ่อโสธรประดิษฐานบนขบวนรถบุษบก เคลื่อนไปยังถนนสายต่างๆ เพื่อให้ประชาชนได้สักการะบูชา นอกจากนี้ ในวันที่ 16 และ 17 พฤศจิกายน 2556 จะมีพิธีแห่องค์หลวงพ่อโสธรทางน้ำ เพื่อให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำบางปะกง ได้กราบไหว้ขอพรเช่นกัน โดยขบวนเรือจะเคลื่อนจากท่าน้ำวัดโสธรวรารามวรวิหาร และจอดเทียบท่าตามจุดต่างๆ ที่อำเภอบ้านโพธิ์ อำเภอเมือง และอำเภอบางคล้า นอกจากนี้ภายในงานยังมีกิจกรรมต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวได้เลือกชม เลือกช้อป และเลือกชิมจากร้านค้าของเหล่ากาชาด สินค้าราคาถูกจากบริษัท ห้างร้าน โรงงาน ชมนิทรรศการส่วนราชการพร้อมชม การแข่งขันเจ็ตสกี เรือเล็กบังคับวิทยุ เรือพายยาวประเพณี และเรือเครื่องหางยาว รวมถึงการแสดงมหกรรมดนตรีไทยและนาฏศิลป์ควบคู่ไปกับงานมหรสพต่างๆ ตลอด 10 วัน 10 คืน

ททท. จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวร่วมงานนมัสการหลวงพ่อพระพุทธโสธร และงานประจำปีจังหวัดฉะเชิงเทรา ประจำปี 2556 ระหว่างวันที่ 14-23 พฤศจิกายน 2556 ณ บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทราเทรา สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดฉะเชิงเทรา โทรศัพท์ 0 3851 4794

มหัศจรรย์หมู่เกาะสุดทางบูรพา ปี 2556



วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน 2556

11.00 น. พร้อมกันที่ท่าเรือนางพญา ต.แหลมศอก อ.เมือง จ.ตราด ลงทะเบียน / นำกระเป๋าสัมภาระติดป้ายชื่อ / เตรียมชุดสำหรับเที่ยวน้ำตก

12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ท่าเรือนางพญา

13.00 น. ลงเรือ Speed Boat มุ่งหน้าสู่ เกาะกูด อัญมณีแห่งท้องทะเลตะวันออก เกาะที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของประเทศไทย มีเนื้อที่ประมาณ 65,625 ไร่

14.00 น. ล่องเรือชมธรรมชาติลำคลองเจ้า จากนั้น เดินเท้าเข้าสู่ตัวน้ำตกคลองเจ้า (15 นาที) สถานที่ซึ่งรัชกาลที่ 5 เคยเสด็จประพาส กิจกรรมเล่นน้ำบริเวณน้ำตกคลองเจ้า

16.00 น. Check In เข้าสู่สถานที่พัก อาณาเล รีสอร์ท เกาะกูด ที่พักติดชายหาดพร้อมสระว่ายน้ำ รับเครื่องดื่ม Welcome Drink และรับประทานอาหารว่างบริเวณห้องอาหาร

18.30 น. รับประทานอาหารเย็น (ซีฟู้ด) ณ ห้องอาหารของสถานที่พัก / พักผ่อนตามอัธยาศัย



วันเสาร์ที่ 23 พฤศจิกายน 2556

08.00 น. รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของสถานที่พัก / เตรียมชุดสำหรับกิจกรรมดำน้ำ

08.50 น. รับอุปกรณ์ดำน้ำ Snorkel (หน้ากากดำน้ำ+ท่อหายใจ) คนละ 1 ชุด

09.00 น. พร้อมลงเรือเร็ว (Speed Boat) มุ่งหน้าสู่ หมู่เกาะรัง จุดดำน้ำชื่อดังแห่งท้องทะเลตราด

09.30 น. กิจกรรมฝึกสอนการใช้ Snorkel บริเวณชายหาดศาลเจ้า ณ เกาะรัง จากนั้น กิจกรรมดำน้ำชมความสวยงามของโลกใต้ทะเลบริเวณ เกาะรัง และเกาะยักษ์

12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ชายหาดศาลเจ้า เกาะรัง

13.30 น. เดินทางออกจากเกาะรัง กลับไปยังเกาะกูด

14.30 น. เดินทางกลับถึงที่พัก อาณาเล รีสอร์ท เกาะกูด / พักผ่อนตามอัธยาศัย

18.00 น. งานเลี้ยงรับประทานอาหารเย็น (ซีฟู้ด) ณ ห้องอาหารของสถานที่พัก กิจกรรมเกมส์ชิงรางวัลของที่ระลึกจาก ททท.สำนักงานตราด



วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน 2556

08.00 น. รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของสถานที่พัก

09.00 น. ร่วมกับ ชมรมการท่องเที่ยวเกาะกูด มอบอุปกรณ์กีฬาให้กับโรงเรียนในพื้นที่เกาะกูด

10.00 น. Check Out / ลงเรือ Speed Boat เดินทางกลับเข้าฝั่งจังหวัดตราด

11.00 น. เดินทางถึงท่าเรือนางพญา / เก็บสัมภาระ เตรียมตัวออกเดินทางในรูปแบบคาราวาน จากนั้น แวะซื้อสินค้าของฝากจังหวัดตราดประเภทอาหารทะเลแปรรูป อาทิ กุ้งแห้ง กะปิ น้ำปลา ปลาสละ ปลากุเลา ณ ร้านของฝากป้าแจ๋ว

12.00 น. เข้าชมปรากฏการณ์ ฝูงเหยี่ยวแดงคอขาวนับร้อยตัว ต.หนองคันทรง อ.เมือง จ.ตราด รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหารคนพลัดถิ่น

13.00 น. เข้าชมเรื่องราวประวัติศาสตร์จังหวัดตราด ณ พิพิธภัณฑสถานจังหวัดตราด จากนั้น เดินทางไปยัง สวนสละสมโภชน์ ชมการทำสวนสละพันธุ์สุมาลีคุณภาพส่งออก สิ้นสุดการเดินทาง / บันทึกภาพหมู่เป็นที่ระลึก / เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ

หมายเหตุ รับจำนวนจำกัด / *ห้องพักมีหลายประเภท สงวนสิทธิ์สำหรับผู้ที่ชำระเงินก่อนเท่านั้น* หมดเขตการรับสมัครวันที่ 18 พฤศจิกายน 2556

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะกูด คุณศุกรี โทรศัพท์. 08-1403-6174 / คุณสอง 08-9141-5270 ททท.สำนักงานตราด โทรศัพท์. 039-597-259 ถึง 60


The Houben Hotel โรงแรมหรูสถาปัตยกรรมโมเดิร์นสไตล์

The Houben Hotel โรงแรมหรูสถาปัตยกรรมโมเดิร์นสไตล์ตั้งอยู่บนเนินเขาสูงท่ามกลางธรรมชาติขุนเขาของหาดบากันเตียง ทางตอนใต้ของเกาะลันตาใหญ่ จังหวัดกระบี่

โรงเรมเดอะฮูเบ็นแตกต่างจากโรงแรมอื่นไม่เพียงแค่การออกแบบและสถานที่ตั้งเท่านั้น (ตั้งอยู่บนหน้าผา สามารถมองเห็นท้องทะเลอันดามันได้จากทุกมุม และทุกห้องของโรงแรม) แต่การบริการรวมถึงการเอาใจใส่ของพนักงานที่มีแก่ลูกค้า ก็ทำให้โรงแรมเดอะฮูเบ็นแห่งนี้ติดอันดับ 1 ใน 3 ของเกาะลันตา รวมถึงได้รับคะแนน เสียงโหวตจากนักท่องเที่ยวให้ ได้ติดอันดับ 1 ใน 25 โรงแรมในประเทศไทย ในกลุ่มของ small hotel และ best sevice จาก Trip Advisor อีกด้วย

โรงแรมเดอะฮูเบ็น เป็นโรงแรมที่เหมาะสำหรับผู้มาเยือนที่ต้องการความรู้สึกที่แตกต่าง สงบ บริสุทธิ์ยังคงไว้ซึ่งความสมบูรณ์ของ ธรรมชาติ ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับคู่รักคู่ฮันนีมูนที่ต้องการดื่มด่ำบรรยากาศที่แสนโรแมนติกหลังสุดท้ายของดวงอาทิตย์ที่สวยที่สุดบนเกาะลันตาใหญ่

มาร่วมสัมผัสกับธรรมชาติที่แนบชิดติดทะเลและเก็บความทรงจำที่มีค่ากับธรรมชาติที่คุณสามารถสัมผัสได้ ที่ The Houben Hotel, Where the comfort meets style, where the sun dives into the tranquil horizon , where your vacation feels like home.

ด้วยความที่เจ้าของมีสัญชาติเบลเยี่ยม เพราะฉะนั้นทางโรงแรม จึงมีเมนูอาหารประจำชาติ รวมถึงเมนูของหวาน อันได้แก่ เบลเยี่ยมวาฟเฟิลอันเรื่องชื่อ ราดด้วยดาร์คเบลเยี่ยมชอคโกแลตซอสข้อมุลติดต่อ thehouben


โรงแรม เดอะ ฮาวเบ็น

ที่ตั้ง: 272 หมู่ 5 เกาะลันตาใหญ่ จ.กระบี่ 81150

เว็บไซต์: www.thehouben.com

อีเมล์: reservations@thehouben.com

โทร.075 665144, 082 800 3880

แฟกซ์: 075 665133

บัวตองอร่ามตา ณ ดอยหัวแม่คำ

หนึ่งใน Unseen Thailand ที่งดงามราวกับสวรรค์บนดิน ต้องยกนิ้วให้ ดอยหัวแม่คำ จังหวัดเชียงราย เพราะสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติโดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว เนื่องจากชื่อเสียงระบือไกลของดอกไม้งามนามว่า "บัวตอง" นั้นจะเหลืองอร่ามไปทั่วทั้งหุบเขาที่กว้างใหญ่ และยังเป็นที่อยู่อาศัยของชาวเขาเผ่าต่างๆ ทั้ง อาข่า ม้ง ลีซอ ลาหู่ ทำให้ได้สัมผัสชีวิตชาวดอยอย่างใกล้ชิด



ดอยหัวแม่คำ ตั้งอยู่ที่ หมู่ 4 ต.แม่สลองใน อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ห่างจากบ้านเทอดไทยประมาณ 35 กิโลเมตร ติดตะเข็บชายแดนประเทศไทยกับพม่า พื้นที่ส่วนหนึ่งอยู่ในเขตวนอุทยานดอยหัวแม่คำ เป็นดอยสูงที่ติดอันดับในใจของนักท่องเที่ยวในช่วงฤดูหนาวของประเทศไทย เพราะดอกบัวตองจะบานให้เชยชมเพียงแค่ปีละครั้งเท่านั้น คือในช่วงเดือนพฤศจิกายน และจะบานเต็มที่ในช่วงกลางเดือน โดยทั่วทั้งขุนเขาจะสวยงามเหลืองอร่ามตา ทำให้ทิวทัศน์ดุจดั่งภาพเขียน เพราะดอกบัวตองนั้นขึ้นสลับกันกับบ้านของชาวเขา และพลาดไม่ได้กับยามเช้า ที่ต้องรีบตื่นมารอแสงแรกแห่งวันใหม่ที่โผล่ขึ้นมาจากขอบฟ้า คลอเคลียด้วยเมฆหมอกที่อบอวลไปทั่วทั้งขุนเขา ยิ่งทำให้ความประทับใจจะตราตรึงมิรู้ลืม นอกจากนี้ ทางดอยหัวแม่คำยังมีกิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้นในช่วงเดือนแห่งดอกบัวตองด้วย อย่างเช่น การแสดงของชาวเขาเผ่าต่างๆ และยังได้สัมผัสกับวิถีชีวิตอย่างใกล้ชิด หากอยากมาสัมผัสความงามของดอกบัวตอง ควรที่จะมาช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน เพราะหากปล่อยนานไปถึงปลายเดือนแล้วจะต้องเสียใจ เพราะดอกบัวตองจะเริ่มโรยรา ก็คงต้องรอกันต่อไปอีกหนึ่งปี

ดอยหัวแม่คำ ยังมีสถานที่ที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง นอกจากการเดินชมทิวทัศน์ และวิถีชีวิตของชนเผ่าแล้ว ยังมีวนอุทยานดอยหัวแม่คำ ซึ่งเป็นที่ทำการอุทยาน ตั้งอยู่ที่ความสูงประมาณ 1300 เมตร ห่างจากหมู่บ้านดอยหัวแม่คำไปประมาณ 1.6 กิโลเมตร เป็นจุดชมวิวที่สูงที่สุดของดอยหัวแม่คำ ซึ่งควรที่จะตื่นมาตั้งตารอแต่เช้าตรู่ เพราะจะได้พบกับทะเลหมอกอันกว้างใหญ่ ที่ทอดกายปกคลุมภูเขาน้อยใหญ่สลับเรียงรายกันไปมา ดุจดั่งล่องลอยอยู่ในสรวงสวรรค์เลยทีเดียว

เมื่อเก็บความงามยามเช้าจนชื่นฉ่ำแล้ว สายๆ ก็ให้เดินทางไปที่สุดปลายทาง ห่างจากบ้านหัวแม่คำไปเล็กน้อย ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบของวนอุทยาน เพื่อขึ้นไปเล่นน้ำตกที่ใสเย็น แต่ควรใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อเท่านั้น เนื่องจากเส้นทางค่อนข้างชัน คุณจะได้พบกับน้ำตกขนาดกลาง ที่ไหลลดหลั่นลงมาจากหน้าผาสูงประมาณ 20 เมตร และเป็นแหล่งน้ำที่สำคัญของชุมชนดอยหัวแม่คำอีกด้วย

การเดินทาง จากกรุงเทพฯ หากใช้รถยนต์ส่วนตัว แนะนำให้ใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อ เพราะเส้นทางระหว่างขึ้นดอยนั้น สูงชัน สลับขรุขระบ้าง ให้มุ่งหน้าตรงเข้าสู่ตัวเมืองเชียงราย และเข้าทางหลวงหมายเลข 110 ตรงสู่อำเภอแม่จัน จากนั้น เลี้ยวเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 1130 ตรงทางแยกขึ้นดอยแม่สลองผ่านบ้านบางปู บ้านสันติคีรี เมื่อพ้นเขตบ้านแม่สลองในเส้นทางจะเป็นลูกรัง เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 1234 ผ่านทางแยก แม่สลอง-บ้านเทอดไทย ให้เลี้ยวซ้ายเข้าแยกบ้านเทิดไทย เมื่อถึงสามแยกอีก้อให้เลี้ยวซ้ายไปบ้านห้วยอิ้น ขับไปตามทางเรื่อยๆ คุณก็จะได้เห็นดอกบัวดอกบานสะพรั่ง สีสันสดใส สวยงามอร่ามตาไปตลอดเส้นทาง สำหรับที่พักไม่ต้องเป็นห่วง เพราะทางวนอุทยานมีที่พักสำหรับนักท่องเที่ยว แต่หากต้องการที่จะกางเต็นท์ ก็ให้ติดต่อขออนุญาตกับทางเจ้าหน้าที่วนอุทยานน้ำตกหัวแม่คำโดยตรง หรือ สำนักบริหารจัดการในพื้นที่ 15 จังหวัดเชียงราย โทร. (053) 714914 หรืออยากสัมผัสวิถีชาวบ้านจริงๆ ก็มีโฮมสเตย์ไว้บริการมากมาย ซึ่งก็อยู่ภายในละแวกหมู่บ้าน แถมราคาก็แสนจะเป็นมิตร

หากคุณเป็นประเภทที่ชอบวางแผนการท่องเที่ยวไว้ล่วงหน้าล่ะก็ ขอให้ "ดอยหัวแม่คำ" เป็นหนึ่งในโปรแกรมของคุณ รับรองว่า นี่คือสวรรค์บนดินที่จะตราตรึงไม่รู้ลืม