วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

เที่ยวมหัศจรรย์หมู่เกาะทะเลตราด เกาะกูด เกาะหมาก สวยน่าไปมากๆ


พูดถึง จังหวัดตราด หลายคนคงนึกภาพของทะเลและเกาะน้อยใหญ่มากมาย ทั้ง เกาะช้าง เกาะหมาก เกาะกูดฯลฯ ที่ซุกซ่อนความงดงามรอให้คุณไปสัมผัส และนับตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไปจนถึงเดือนพฤษภาคมปีหน้า ถือเป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวทะเลตราด คลื่นลมกำลังสงบ ท้องฟ้าเข้มเป็นสีคราม น้ำทะเลใสราวแก้วเจียระไน เหมาะกับการชวนเพื่อนฝูง คนรู้ใจ หรือครอบครัว ไปพักผ่อน นั่งเล่นทอดอารมณ์ หรือจะลงไปดำผุดดำว่ายดูแนวปะการังและหมู่ปลา ซึ่งไม่ว่าจะไปเยือนกี่ครั้งก็สุดแสนจะคุ้มค่า สำหรับการรอนแรมไปพักผ่อนในช่วงวันหยุดของคุณจริงๆ
และด้วยความมหัศจรรย์ของท้องทะเลตราดที่สวยล้ำเกินคำบรรยาย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานตราด ร่วมกับ สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดตราด จัดกิจกรรม เปิดฤดูกาลท่องเที่ยวทะเลตราด ตอน "มหัศจรรย์หมู่เกาะสุดทางบูรพา"(ตราด - เกาะกูด - เกาะหมาก - หมู่เกาะรัง - เกาะกระดาด) ชวนนักท่องไปเที่ยวไปพักผ่อนในราคาทัวร์แบบสุดคุ้มและกิจกรรมแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ไม่ว่าจะล่องทะเล ขึ้นเกาะ เล่นน้ำตก ดำน้ำดูปะการัง มีครบทุกรสชาติจริงๆ
ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ ราว 4 ชั่วโมงนิดๆ เป้าหมายแรกของพวกเราคือ เกาะกูด เกาะที่ The New york Times จัดให้เป็น 1 ใน 31 สถานที่ควรไปเยือนเมื่อปี 2010 โดยนักเดินทางกว่าร้อยชีวิตในทริปนี้ได้นัดรวมตัวกันอย่างพร้อมเพรียงที่ท่าเรือนางพญา (เกาะกูดเอ็กซ์เพรส) ตำบลแหลมศอก อำเภอเมือง ก่อนขนสัมภาระลงเรือเกาะกูดเอ็กซ์เพรส มุ่งหน้าสู่เกาะกูด ใช้เวลาเดินทางจากฝั่งเพียงชั่วโมงนิดๆ นอนยังไม่ทันหลับ เม้าส์กับเพื่อนยังไม่ทันจบ เรือก็จอดเทียบท่าท่าเรืออ่าวตะเภาซะแล้ว
น้ำตรงท่าเรือใสแจ๋วน่าเล่นมากอ่ะ แต่พอขึ้นจากท่าเรือปุ๊บ เราไม่มีเวลาอ้อยอิ่งมากนัก เพราะฝนเริ่มโปรยปรายลงมานิดๆ เราเลยคว้ากระเป๋ากระโดดขึ้นรถสองแถว (รถรับจ้างประจำเกาะ) นั่งลัดเลาะไปตามถนนบนเกาะ ชมวิวเขียวๆ ของผืนป่าและสวนยางบนเกาะกูด ก่อนไปจอดแวะเติมพลังอาหารมื้อเที่ยงกันที่ห้องอาหารปีเตอร์แพน รีสอร์ท หาดคลองเจ้า หาดแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นหาดทรายเนียนละเอียดที่สุดบนเกาะกูด ด้านหลังรีสอร์ทนั้นติดติดกับคลองเจ้า คลองเล็กๆ ที่มีป่าชายเลนเขียวครึ้มทอดเป็นแนวยาวสุดสายตา มีรีสอร์ทแทรกตัวอยู่เป็นหย่อมๆ นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาตินิยมมาพายคายักเล่น หรือไม่ก็ล่องเรือขึ้นไปชมน้ำตกคลองเจ้า
กินข้าวกันอิ่มหมีพีมันเสร็จ พวกเราทุกคนต่างแยกย้ายกันไปซึมซับบรรยากาศความเงียบสงบของหาดคลองเจ้า บางกลุ่มก็เดินเล่นไปตามแนวชายหาด บางกลุ่มก็ยกกล้องขึ้นมาถ่ายรูปเล่นกับเพื่อนๆ ส่วนตัวผมเองนั้นแอบดราม่านั่งชิลล์มองทะเลที่วันนี้แม้ท้องฟ้าจะแอบครึ้มฝนนิดๆ เพราะเพิ่งเป็นต้นฤดูกาลท่องเที่ยว ฤดูฝนยังไม่หมดดี แต่ก็รู้สึกว่าสวยสงบ เหมาะกับการหลีกหนีความวุ่นวายจากเมืองใหญ่มาพักผ่อนแบบส่วนตัวซะจริงๆ

จานนั้นพวกเรานั่งสองแถวไปเที่ยว น้ำตกคลองเจ้า ที่อยู่ไม่ไกลจากหาดคลองเจ้ามากนัก จากนั้นก็เดินลัดเลาะผืนป่าไปตามเส้นทางสีเขียวครึ้มราว 20 นาทีนิดๆ ก็ถึงน้ำตกที่สวยงาม  น้ำใสแจ๋ว และน่าเล่นที่สุดอีกแห่งหนึ่งบนเกาะกูด 
เติมเต็มความสุขจากธรรมชาติกันอย่างจุใจแล้ว พวกเราก็นั่งสองแถวไปเช็คอินกันที่ เกาะกูด อ่าวพร้าวบีช รีสอร์ทที่พักติดชายหาดบรรยากาศทิวมะพร้าว พร้อมปิดทริปวันแรกในช่วงเย็นด้วยงานเลี้ยงอาหารเย็นที่ยกซีฟู้ดมาแบบจัดเต็ม ทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา หมึก กุ้ง แบบไม่อั้น โอ้ยอิ่มพุงจะแตก!  (ฮา) แถมยังมีกิจกรรมชิงรางวัลมากมายจาก ททท. และสมาคมฯ ให้ลุ้นความสนุกตลอดมื้ออีกด้วย
นอนหลับกันเต็มอิ่มในห้องพักแสนสบายของ เกาะกูด อ่าวพร้าวบีช รีสอร์ท ในคืนแรกกันแล้ว เช้าวันต่อมาพวกเราลงเรือเกาะกูดเอ็กซ์เพรส เดินทางมุ่งหน้าสู่ เกาะหมาก เกาะกึ่งกลางที่อยู่ระหว่างเกาะช้างกับเกาะกูด ก่อนเปลี่ยนไปนั่งเรือไม้สองชั้นเพื่อสนุกกับกิจกรรมที่ทุกคนตั้งตารอคอย นั่นคือ การดำน้ำชมประติมากรรมช้างใต้ทะเลจากฝีมือของศิลปินแห่งชาติชื่อดังที่มีให้เลือกชมถึง 9 ตัวเลยทีเดียว
จากนั้นเรานั่งเรือไปชมความงามของโลกใต้ทะเลบริเวณหมู่เกาะรังกันต่อ พอไปถึงบริเวณรอบๆ เกาะรัง งานนี้ทุกคนไม่รอช้ารีบจัดการสวมสน็อกเกิล ร่มชูชีพ แล้วกระโดดน้ำลงไปดำผุดดำว่ายชมปะการังน้ำตื้นใต้ท้องทะเลอ่าวไทยกันแบบตื่นตาตื่นใจ ท่ามกลางท้องทะเลสีฟ้าอ่อนใสแจ๋ว มองเห็นปลานานาชนิดว่ายไปมาอยู่รอบตัว จนรู้สึกว่าโลกใต้น้ำของหมู่เกาะรังงดงามไม่แพ้ที่ไหนจริงๆ
จอดเรือแวะ เกาะผี กันสักหน่อย เกาะนี้เป็นเล็กๆ กลางทะเลตราด น้ำใสแจ๋ว ทรายสีขาว เห็นแล้วอดใจไม่ไหว คว้าสน็อกเกิลไปดำผุดดำว่ายน้ำดูปะการังใต้ท้องทะเลให้ฉ่ำปอดอีกรอบ
บ่ายแก่ๆ เราเดินทางต่อไปยัง เกาะกระดาด ไกด์ใจดีในทริปนี้บอกข้อมูลคร่าวๆ กับเราว่า ลักษณะของเกาะเป็นพื้นราบ มีเนินเขาอยู่ตรงกลาง มีหาดทรายขาดสะอาด สามารถเดินถึงกันได้รอบเกาะ ที่ได้ชื่อว่าเกาะกระดาด เพราะแต่ก่อนมีต้นกระดาดขึ้นเยอะ ปัจจุบันยังคงเหลืออยู่บ้าง แล้วพวกเราก็กระโดดขึ้นรถอีแต๋นนั่งชมวิวรอบเกาะ ไกด์บอกกับเราอีกว่า เดิมที่นี่มีกวางแค่ 2 ตัว ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าอยู่หัว หรือรัชกาลที่ 5 นำมาปล่อยไว้จนปัจจุบันมีเป็นหมื่นตัว หากินตามธรรมชาติ ชาวบ้านที่เฝ้าเกาะหวงมากไม่มีใครฆ่าหรือนำมาประกอบอาหาร ขณะนั่งรถชมเกาะเราเห็นฝูงกวางป่านับร้อยตัวออกมาเดินหากินท่ามกลางสวนมะพร้าวต้นสูงลิบลิ่วที่เหมือนเอกลักษณ์ประจำเกาะ อารมณ์คล้ายๆ กับการไปเที่ยงทุ่งซาฟารี แต่ที่นี่เป็นซาฟารีกลางทะเล ไม่เหมือนที่ไหนจริงๆ มาแล้วห้ามพลาดถ่ายรูปกับฝูงกวางและทิวมะพร้าว ไม่งั้นถือว่ามาไม่ถึงเกาะกระดาดนะ
เย็นนี้พวกเราพักกันที่ มากะธานี รีสอร์ท ที่พักติดชายหาดสวยๆ บนเกาะหมาก ก่อนเติมพลังด้วยอาหารเย็นที่จัดเต็มด้วยซีฟู้ดนานาชนิดอีกเช่นเคย (กลับไปคราวนี้ต้องอ้วนแน่ๆ เลย แต่อดใจไม่อยู่อีกละ ไว้ลดน้ำหนักทีหลังละกันนะ หุหุ)
วันที่สามพวกเราตื่นกันแต่เช้า ออกมาเดินเล่นสูดอากาศแสนบริสุทธิ์และถ่ายรูปเล่นกันแบบไม่ยั้ง แม้วันนี้ฟ้าจะหม่นไปนิด แต่ความสวยงามที่มองเห็นมากกว่าภาพถ่าย ก็ชวนให้เราหลงใหลจนอยากอยู่เที่ยวต่ออีกสักวันสองวัน
สายๆ เราลงเรือเกาะกูดเอ็กซ์เพรส เดินทางกลับเข้าฝั่ง แล้วนั่งรถต่อไป ร้านอาหารคนพลัดถิ่น ต.หนองคันทรง อ. เมืองตราด เพื่อไปกินอาหารกลางวันแบบพื้นบ้านและเฝ้าชาฝูงเหยี่ยวแดงคอขาวนับร้อยตัว ซี่งเป็นนกประจำถิ่นของที่นี่ บินโฉบมากินเศษซากอาหารที่เจ้าของร้านเอามาเลี้ยงปลาในบ่อ เรียกว่า เป็นปรากฎการณ์ธรรมชาติที่น่าหาโอกาสมาชมกับตาตัวเองสักครั้ง
ปิดท้ายเราแวะซื้อของฝากจากร้าน กุ้งแห้งป้าแจ๋ว มีสินค้าจากท้องทะเลให้เลือกละลานตาทั้งกุ้งแห้งหลากไซต์สีสันน่ากิน ปลาเค็ม กุ้งหวาน หมึกแห้ง และของฝากพื้นเมืองตราดให้เลือกชอปเพียบ รับรองว่าคนทางบ้านเห็นแล้วยิ้มแก้มปริแน่นอน
ฤดูท่องเที่ยวทะเลตราดเปิดแล้วนะครับ หาโอกาสไปเยือนกันสักครั้ง ค่าใช้จ่ายก็ไม่แพง แต่รับรองว่าสนุกคุ้มค่าเกินราคามากกว่าที่หลายคนคิดไว้จริงๆ สนุก! ท่องเที่ยว คอนเฟิร์ม!
สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม: การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานตราด โทร.0 3959 7259,0 3959 7260

เรื่องและภาพ: ธนปกรณ์ สุขสาลี
ขอขอบคุณ: การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานตราด

นาขั้นบันได แม่กลางหลวง เขียวงามจับใจจริงๆ


นาขั้นบันได แหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งที่กำลังได้รับความนิยม จากผู้รักธรรมชาติและผู้หลงใหลในการกดชัตเตอร์ สัมผัสธรรมชาติ ท่ามกลางหุบเขา พร้อมกับบรรยากาศอากาศหนาวได้ที่ นาขั้นบันได แม่กลางหลวง
เริ่มต้นออกเดินทาง ซึ่งการเดินทาง สามารถเลือกเดินทางได้ทั้งรถส่วนตัว และ รถโดยสาร ซึ่งคนเมืองจะเรียกกันว่ารถแดง ระหว่างการเดินทางไปนาขั้นบันได เราจะไปแวะที่ร้านกาแฟของพี่สมศักดิ์ ซึ่งเค้าขนานนามกันว่ากาแฟอร่อย ด้วยวิธีการชงกาแฟ ที่ยังใช้กาต้มน้ำในการชงซึ่งถือได้ว่า หากินและชมได้ยากพอสมควร และถ้าสังเกตุจากกาที่ต้ม น่าจะพอบอกได้ว่า ผ่านการชงมาน่าจะนับไม่ถ้วนแล้ว
เมื่อลิ้มรสชาดของกาแฟเสร็จ เราก็มุ่งหน้า ไปที่ "น้ำตกผาดอกเสี้ยว" น้ำตกที่ใช้ถ่ายทำหนังเรื่อง "รักจัง"
ระหว่างทางเดินกลับจากน้ำตกเพื่อไปที่พัก เราก็จะพบกับนาขั้นบันได และ แปลงปลูกดอกเยอบีร่า และดอกเบญจมาศ ที่ชาวบ้านปลูกเพื่อจำหน่าย ขอบอกว่า ดอกเยอบีร่าและเบญจมาศที่นี่สวยงามมาก และเมื่อเดินมาถึงน้ำตก ขอบอกว่า ณ จุดนี้ หายเหนื่อยไปเลย เมื่อเจอกับธรรมชาติกลางหุบเขา ความสดชื่นจากน้ำตก สวยงามและสดชื่นมากกกกก
จากนั้นไปต่อกันที่พระธาตุนภเมทนีดล และ นภพลภูมิสิริ ซึ่งถ้าช่วงเช้า เดินเล่นน้ำตกด้วยความเพลิดเพลิน อาจจะทำให้ถึงกับหมดแรงได้เมื่อเดินทางมาถึง จุดนี้
สำหรับการเข้าชมนาขั้นบันไดนั้น มีสองช่วง คือ เดือนกันยายน - กลางตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงหน้าฝน เพราะนาข้าวจะเริ่มเขียวขจีชุ่มฉ่ำ และปลายเดือนตุลาคม - พฤศจิกายน จะเป็นช่วงที่นาข้าวออกรวงเป็นสีทองเต็มท้องทุ่งเหลืองสวยงามมาก
และสุดท้าย สำหรับการมาเที่ยว นาขั้นบันได ขอแนะนำว่าไม่ควรใส่ขาสั้นไปเด็ดขาดเพราะในนานั้นจะมี "ตัวคุ่น" ซึ่งเจ้าตัวคุ่นนี้ ตอนที่เราโดนกัดจะไม่รู้สึกอะไร แต่หลังจากนั้น 2-3 วัน เราจะนั่งเกากันทั้งวันไปเลย

การเดินทางไปนาขั้นบันได @ แม่แจ่ม
1. รถยนต์ส่วนตัว
- เส้นทางดอยอินทนนท์จากอำเภอจอมทองมีป้ายเขียนไว้ว่า "ดอยอินทนนท์" ให้เลี้ยวขวาไปตามเส้นทาง จะผ่านด่านที่ 1 ตรงน้ำตกแม่กลาง จากนั้นขับรถไปเรื่อยๆ จะผ่านที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ (กม.11) ขับรถตรงไป ตามเส้นทาง จนถึงด่าน 2 จะเห็นป้ายเลี้ยวซ้ายไปแม่แจ่ม (ไม่ต้องตรงไป ถ้าตรงไปจะขึ้นยอดดอยอินทนนท์) ขับมาเรื่อยๆ จนมาถึง ตัวอำเภอ รวมระยะทางแล้วประมาณ 115 กิโลเมตร รถทุกชนิดเดินทางได้ถนนเป็นทางราดยางแต่อาจชันและคดเคี้ยวเป็นหลุมบางช่วง
- เส้นทางสายฮอด-แม่สะเรียงจากตัวเมืองเชียงใหม่เริ่มจาก สี่แยกสนามบิน ขับรถตรงไปเรื่อยๆ ตามถนนสาย เชียงใหม่-หางดง ผ่านห้างโลตัส ผ่านอำเภอ หางดง สันป่าตอง จอมทอง และฮอด พอถึงตลาดฮอดจะสังเกตเห็นวงเวียนและหอนาฬิกาขนาดใหญ่ ให้วนขวาจะสังเกตเห็นที่ว่าการอำเภออยู่ด้านซ้ายมือ จากนั้นให้ตรงไปตามถนนสายฮอด-แม่สะเรียง ผ่านออบหลวง ขับรถตรง ไปเรื่อยๆ จากนั้นให้สังเกตป้ายจะเขียนบอกไว้ว่า อ.แม่แจ่ม ให้เลี้ยวขวา พอเลี้ยวเข้าไปจะสังเกตเห็นวัดอยู่ด้านซ้ายมือจากนั้น ให้ตรงไปเรื่อยๆ จะผ่าน หมู่บ้าน อมขูด , ออป.หัวดอย , โหล่งปง , กองแขก จนมาถึงตัวอำเภอ รวมระยะทางแล้วประมาณ 150 กิโลเมตร
2. รถโดยสารสารธารณะ
- จากกทม. นั่งรถสายกทม.-จอมทอง มีทั้งรถ ปอ. 1และ ปอ.2หลังจากนั้นต่อรถสองแถวที่อ.จอมทอง
- จากจอมทองนั่งรถสายจอมทอง - แม่แจ่มค่าโดยสาร 80 บาท เป็นรถสองแถวสีเหลือง คิวรถอยู่ที่ข้างวัดพระธาตุ
ศรีจอมทอง รถจะออกต่อเมื่อมีผู้โดยสารเต็ม
- จากเชียงใหม่นั่งรถไปลงอาเขต
- จากอาเขต ขึ้นรถแดงไปลงประตูเชียงใหม่ 20 บาท
- จากประตูเชียงใหม่สายเชียงใหม่ - จอมทองค่าโดยสาร 35 บาท แล้วมาลงที่จอมทอง
รถแม่แจ่มรอบแรกประมาณ 07.00 น./ 09.00 น./ 12.00 น./14.00 น./15.00 น. ทั้งไปและกลับ
เที่ยวสุดท้าย 17.00 น. ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 1.30 ชม. ( แม่แจ่ม-จอมทอง )
บริการรถสองแถวเหลืองนำเที่ยวแม่แจ่ม คุณเป๊ก โทร 082 888 5180
ขอบคุณภาพสวยๆ และเรื่องเล่า นาขั้นบันได@ แม่แจ่ม จาก คุณ Somsak Pakapongpan
http://www.facebook.com/somsak.pakapongpan/

พัทยา เมืองเที่ยวชายทะเลแบบจัดเต็ม!


หากพูดถึง พัทยา คุณนึกถึงอะไร คำตอบของนักเดินทางทั้งรุ่นใหม่และรุ่นใหม่คงมีความเห็นแตกต่างกันไป... แต่ที่แน่ๆ เมืองชายทะเลแห่งนี้มีตัวตนหลากหลายรูปแบบและสามารถตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวได้ทุกอย่าง สมกับได้ชื่อว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับประเทศ ที่ไม่เคยหลับใหลทั้งในยามกลางวันและกลางคืน ที่หากใครมาเยือนสักครั้งจะติดใจ
ในแต่ละปี พัทยา มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนเมืองแห่งนี้ปีละหลายล้านคน สร้างรายให้กับประเทศ และเมืองพัทยามากมายมหาศาล ยิ่ง สนุก! ท่องเที่ยว ได้มีโอกาสเข้าร่วมงานแถลงแผนการดำเนินงานด้านการท่องเที่ยวของเมืองพัทยา ที่โรงแรมฮอลิเดย์อิน พัทยา เมื่อกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา ด้วยการจับมือกันของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเมืองพัทยา (ททท. พัทยา) องค์การบริส่วนจังหวัดชลบุรี และหน่วยงานต่างๆ โดยมีผู้ใหญ่ใจดีอย่าง นายอรรถพล วรรณกิจ ผู้อำนวยการ สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (เมืองพัทยา) และ นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทย ก็ทำให้เราได้รับรู้ว่า เมืองพัทยาเมืองเดียวนั้น ในปี 2555 เพียงปีเดียวนั้น พัทยามีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นถึง 12% และมีรายได้มากกว่า 87,000 ล้านบาท นักท่องเที่ยวที่มาเยือนพัทยามากเป็นอันต้นๆ ได้แก่ รัสเซีย จีน ตะวันออกกลาง เกาหลี และยุโรปตะวันออก
ที่ผ่านมา ททท. พัทยา ได้ร่วมกับพันธมิตรทุกฝ่ายจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดอย่างต่อเนื่องในหลากหลายรูปแบบ เพื่อเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวมาเยือนพัทยามากยิ่งขึ้น โดยในปี 2556 จะจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเป็น 10 โครงการหลัก ในหัวข้อ "เที่ยวเมืองชลแสนสุข สนุกทุกเส้นทาง" เน้นจุดขายที่หลากหลาย ทั้งประวัติ ศาสตร์ วิถีความเป็นอยู่ และธรรมชาติ
นอกจากนั้น ยังเตรียมจัดทำโครงการเส้นทาง 4 สวนน้ำ 3 สวนป่า ใช้เป็นจุดขายในการดึงดูดนักท่องเที่ยวในประเทศ เพราะอนาคตอันใกล้ เมืองพัทยา จะมีสวนน้ำระดับโลกถึง 4 แห่ง ไม่ว่าจะเป็น สวนน้ำของการ์ตูนเน็ตเวิร์ค สวนน้ำรายามณะ สวนน้ำแกรนด์ วอเตอร์ พาร์ค และสวนน้ำพัทยาปาร์ค ส่วน 3 สวนป่า ประกอบด้วย สวนเสือศรีราชา สวนสัตว์เปิดเขาเขียว และสวนนงนุช เป็นต้น
นอกจากนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเมืองพัทยา (ททท. พัทยา) ยังพาสื่อมวลชนสำรวจแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ในเมืองพัทยาแบบจัดเต็มและกำลังมาแรงในเวลานี้ ไม่ว่าจะเป็นอาร์ต อิน พาราไดซ์ (Art in Paradise) พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่รวบรวมเอาภาพวาด 3 มิติที่ใครเห็นแล้วต้องว้าวๆๆ มาไว้ตึกเดียวกว่า 140 ภาพ บนพื้นที่กว้างใหญ่ถึง 5,800 ตารางเมตร ก็ทำให้คนหลงรักการถ่ายภาพมาเห็นแล้วต้องกดชัตเตอร์กันแบบไม่ยั้งแน่นอน Art in Paradise แบ่งห้องแสดงภาพออกเป็น 10 ห้องด้วยกัน อาทิ ห้องลวงตา, ห้องใต้สมุทร, ห้องสัตว์ป่า, ห้องภาพจิตรกรรมของศิลปินระดับโลก, โถงอารยธรรม, ห้องศิลปะเหนือจริง, ห้องไดโนเสาร์, ห้องน้ำตกสูงชัน, ห้องวิวทิวทัศน์ และห้องนิทรรศการศิลปะ เป็นต้น ราคาค่าเข้าชม คนไทย 150 บาท, เด็กส่วนสูงไม่เกิน 120 เซนติเมตร ราคา 100 บาท ชาวต่างชาติค่าเข้าชม ราคา 500 บาท, เด็กส่วนสูงไม่เกิน 120 เซนติเมตร ราคา 300 บาท เปิดทุกวัน 09.00-21.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 0 3842 4500
มาเที่ยวแล้วหากมีเวลามากหน่อยจะแวะชมโรงเรียนเวทมนต์ ทักซิโด้โชว์ ที่ใครได้ชมเชื่อว่าต้องลุกขึ้นปรบมือให้ในความความสามารถอันน่าทึ่งและชวนตะลึงของเหล่านักแสดงบนเวทีอย่างแน่นอน โดยเฉพาะเจ้าของนั้น ในอดีตขาเป็นวิศวะกรหนุ่มที่หลงใหลวิชามายากลจนทนทำเป็นงานอิเรกไม่ไหว จึงลาออกจากอาชีพเดิมที่กำลังรุ่งโรจน์มาเปิดการแสดงปราสาทเวทมนต์ที่ปลุก ปั้นมากับมือตัวเอง ทักซิโด้ หรือคุณเก่ง มีดีกรีเป็นถึงแชมป์มายากลแห่งประเทศไทย ปี พ.ศ. 2543 และได้รับรางวัล Master of International Magic Awoard จากสมาคมมายากลแห่งบังกลาเทศ ในงาน International MagicFestival 2005 เคยได้รับเชิญไปร่วมงานแสดงมายากลที่ต่างประเทศมาแล้วหลายหน ได้รางวัลมากมายขนาดนี้ มายากลของเขาย่อมไม่ธรรมดาแน่นอน สอบถามรายละเอียดโทร.0 3848 8880 หรือ www.tuxedo-magic.com
เดินทางจากตัวเมืองพัทยาออกมาอีกนิด นักท่องเที่ยวก็จะได้สัมผัสกับความน่ารักของเหล่าโลมาแสนรู้แบบใกล้ชิดที่พัทยา ดอลฟิน เวิลด์ แอนด์รีสอร์ท (Dolphin's Worls Pattaya) และเชื่อแน่ว่าใครเห็นการแสดงของโลมาแสนรู้เหล่านี้คุณจะต้องตกหลมรักเหมือนกับเราอย่างแน่นอน เพราะทุกโชว์ที่เกิดขึ้นจะสร้างความเพลิดเพลินและความประทับใจให้กับนักทองเที่ยวแบบไม่รู้ลืม โดยโลมาที่ใช้แสดง มีทั้งโลมาพันธ์ปากขวด(indopacifichumpbackdolphin) และโลมาพันธ์ หัวบาตร(Irrawaddy dolphin) หากใครอยากสัมผัสโลมาแสนน่ารักหรือถ่ายรูปกับเพื่อนต่างสายพันธุ์กันสักครั้ง ก็สามารถไปเยือนได้ทุกวัน สอบถามรายละเอียด โทร. 0 3805 1790-6 ,08 4653 7676 ,08 8874 4292 หรือ http://www.pattayadolphins-world.com
ขอขอบคุณ: การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานพัทยา และกองประชาสัมพันธ์ภายในประเทศ
เรื่องและภาพ: ธนปกรณ์ สุขสาลี 

วันอังคารที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

เกาะหลีเป๊ะ มัลดีฟส์เมืองไทย สวรรค์สตูล ตอน 1


ดีด๊ากันอีกแล้ว เมื่อ สนุก! ท่องเที่ยว ได้รับคำชวนจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กองประชาสัมพันธ์ในประเทศ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานตรัง ไปเยือนเมืองสตูลจังหวัดสุดท้ายปลายขวานทองฝั่งอันดามัน ไปร่วมกิจกรรมเปิดฟ้าอันดามัน สวรรค์สตูล และรักษ์เล ป่า ฟ้า สตูลครั้งที่ 12 เมื่อกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
ออกเดินทางกันตั้งแต่เช้าตรู่ โดยสายการบินนกแอร์ บินตรงสู่จังหวัดตรัง มุ่งหน้าสู่เมืองสตูล สวรรค์แห่งทะเลใต้ที่ไม่ได้มีดีแค่ทะเลหรือเกาะสวยๆ ให้เที่ยวชมเท่านั้น หากแต่ยังมีกิจกรรมการท่องเที่ยวบนบกอีกมากมายที่ได้รับความนิยมจากนักท่องที่ยวอย่างไม่ขาดสาย หนึ่งในนั้นที่เราได้มาเที่ยวชมในครั้งนี้ คือ กิจกรรมการเที่ยวท่อง ล่องแก่งน้ำตกวังสายทอง แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาบรรทัด โดยการล่องแก่งของที่นี่จะใช้เรือคายักพายล่องไปตามลำคลองที่น้ำใสละไหลเย็น ระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตร ตลอดทางร่มรื่นด้วยต้นไม้น้อยใหญ่สองฟากฝั่งคลองและ ผ่านแก่งหินต่างๆ ที่ชวนให้ตื่นเต้น เร้าใจในบางช่วง ระดับน้ำไม่แรงมาก เหมาะสำหรับนักท่องล่องแก่งทุกเพศทุกวัย เด็กเล็กๆ ตั้งแต่เด็กวัย 4-5 ขวบ ก็สามารถมาเที่ยวได้เช่นกัน นักท่องเที่ยวสามารถมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ช่วงที่น้ำเยอะที่สุด คือช่วงเดือนมิถุนายน-พฤศจิกายน ใครสนใจก็ชวนกันมาเที่ยวได้ครับ ที่นี่เขามีที่พัก ร้านอาหารไว้รองรับนักท่องเที่ยว อีกทั้งไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัย เพราะทางชุมชนและผู้ประกอบการ เขามีกฎระเบียบการจัดการดูแลอย่างเข็มงวด รับรองว่าแล้วสนุกไม่รู้ลืมชัวร์
ยามบ่ายแก่ๆ เราออกเดินทางไป บารา รีสอร์ท อ.ละงู เพื่อชมกิจกรรมพบปะและแลกเปลี่ยนการขาย Table Top Sale ระหว่างผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวฝั่งทะเลอ่าวไทย อาทิ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา นาธิวาส พัทลุง ยะลา ปัตตานี กับผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว จ.สตูล ณ บารา รีสอร์ท โดยมี นายปรเทศว์ อมาตยกุล ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคใต้ เป็นประธานในพิธีเปิด
นายจรัญ ชื่นในธรรม ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานตรัง กล่าวว่า หากผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวสามารถจับมือกันสร้าง เส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงระหว่างทะเลฝั่งอันดามันตอนใต้กับฝั่งอ่าวไทยได้ ก็จะเป็นทางเลือกที่ดีให้กับนักท่องเที่ยว เป็นการเพิ่มความน่าสนใจให้กับโปรแกรมการเดินทางท่องเที่ยวด้วยแหล่งท่อง เที่ยวที่มีความหลากหลายและเกิดความสะดวกในการเดินทาง อีกทั้งเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการแข่งขันของภาคธุรกิจด้วยกันและจะทำให้การ ท่องเที่ยวจังหวัดสตูล มีโอกาสในการเติบโตเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนนัก ท่องเที่ยวชาวต่างประเทศในพื้นที่สตูลในอนาคต
แดดร่มลมตก เราออกเดินทางไปร่วม กิจกรรมเปิดฟ้าอันดามัน สวรรค์สตูล และรักษ์เล ป่า ฟ้า สตูลครั้งที่ 12 ณ บริเวณจุดชมวิวปากบารา อำเภอละงู พร้อมชมการแสดง แสง สี เสียง ย้อนรอยประวัติศาสตร์ตะรุเตา และมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง 
เช้าวันใหม่ เราออกเดินทางจากที่พักไปร่วมร่วมพิธีเปิดกิจกรรมรักษ์เล ป่า ฟ้าสตูล ครั้งที่ 12 โดยมีอาสาสมัครผู้มีหัวใจจิตอาสากว่า 800 คน จากทั่วประเทศ เดินทางมาเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ โดยอาสาสมัครจะร่วมกิจกรรมเก็บขยะ ณ บริเวณชายฝั่งทะเลตามเกาะต่างๆ ในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ อาทิ เกาะอาดัง เกาะไข่ เกาะราวี ในเขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตา และใต้ทะเลตามแนวปะการังรัง เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามามีส่วนร่วมในการดูแล รักษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่จะส่งผลต่อการอนุรักษ์แหล่งท่องเที่ยวทางทะเลของจังหวัด และป็นการส่งสัญญาณว่าจังหวัดสตูลมีความพร้อมแล้วที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวในฤดูกาลการท่องเที่ยวที่จะมาถึงนี้
จากนั้นเราออกเดินทางด้วยเรือสปี๊ดโบ้ทความเร็วสูงสี่เครื่องยนต์ที่จุคนได้กว่าสี่สิบคน เร่งเครื่องแล่นฉิวออกจากท่าเรือปากบารา มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตก ตรงสู่ท้องทะเสีคราม โดยมีจุดมุ่งหมายแห่งแรกคือ เกาะบุโหลน เกาะเล็กๆ ในความรับผิดชอบของ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา ที่ประกอบด้วย เกาะต่าง ๆ 8 เกาะ ได้แก่ เกาะบุโหลนเล เกาะบุโหลนดอน เกาะบุโหลนไม้ไผ่ เกาะตงกู เกาะลามา เกาะอายำ เกาะรังนก และ เกาะลูกหิน ซึ่งส่วนคำว่า บุโหลน เพี้ยนมาจากภาษามลายู บูโละ แปลว่า ไม้ไผ่ เนื่องจากบนเกาะอุดมสมบูรณ์ด้วยไม้ไผ่ จึงเรียกชื่อเกาะตามพันธุ์ไม้ นั่นเอง
เกาะบุโหลนเป็นเกาะเล็กๆ ที่มีหาดทรายขาดสะอาด น้ำทะเลใสสวยเล่นน้ำได้ มีจุดดำน้ำตื้นและดำน้ำลึกกระจายอยู่หลายจุด เช่น เกาะอายำ และเกาะหินขาว อีกทั้งยามเย็นยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยอีกจุดหนึ่งด้วย
เดินทางชิลล์ๆ จากเกาะบุโหลนไม่นานนัก เราก็ถึงดินแดนที่ได้รับการขนานนามว่า มัลดีฟส์เมืองไทยหรือเกาะหลีเป๊ะเกาะเล็กๆ ในทะเลสตูล ที่เลยจากเกาะอาดังไปทางทิศใต้แค่ราวกิโลเมตรกว่าๆ เป็นหนึ่งในเกาะที่อยู่ภายใต้การดูแลของอุทยานแห่งชาติตะรุเตา ที่ยังความสวยงามของธรรมชาติไว้อย่างมหัศจรรย์ และเป็นจุดหมายที่ใครๆ อยากพากันไปให้เห็นกับตาสักครั้งว่าสวยงามสมคำร่ำลือขนาดไหน
เรือสปี๊ดโบ้ทลำเดิมจอดรถลงที่กลางเวิ้งอ่าวบันดาหยาหรืออ่าวพัทยา ศูนย์รวมความเจริญและแสงสีของเกาะแห่งนี้ เพราะมีทั้งรีสอร์ท ร้านอาหาร บริษัททัวร์ และร้าให้เช่าอุปกรณ์ดำน้ำ รวมไปจุดเริ่มต้นของถนนคนเดินซึ่งทอดลึกเข้าไปในตัวเกาะ เชื่อมต่อกับถนนที่ไปยังหาดอื่นๆ อีกสองหาด เสน่ห์ตรึงใจของหาดบันดาหยา ก็คือ เวิ้งอ่าวที่โค้งเว้าได้รูป หาดทรายขาวจั๊ว เนื้อละเอียดราวกับปุยแป้ง ตัดกับท้องฟ้าสีคราม และน้ำทะเลสีเขียวเทอควอยส์ไล่โทนไปตามระดับความลึก เพราะด้วยความที่อยู่ไกลจากฝั่ง ประกอบกับเป็นทะเลเขตน้ำลึก ปราศจากตะกอนน้ำรบกวน น้ำที่นี่จึงใส ทว่าสีเข้มข้น ดึงดูดสายตายิ่งนัก หาดนี้จึงเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศมานอนอาบแดด อ่านหนังสือ และพายเรือคายักเล่น
บ่ายแก่ๆ ก็ได้เวลาออกเดินสำรวจความสวยงามของเกาะหลีเป๊ะ นอกจากหาดพัทยาที่คึกคักที่สุดแล้ว จากถนนคนเดิน เดินลัดเลาะไปตามทางเดินกลางเกาะไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เราก็มาถึงหาดซันไรต์ หรือชาวเล อันเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวเลเผ่าอูรักลาโว้ย ซึ่งอพยพเข้ามาอยู่ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 และใช้ชีวิตหากินอยู่กับทะเลไม่เคยเปลี่ยน
บริเวณนี้มีรีสอร์ทเกิดขึ้นตลอดแนวหาด แต่ไม่หนาแน่นเท่าหาดพัทยา บรรยากาศเงียบสงบกว่า วงที่น้ำลงมากๆ สามารถเดินลุยน้ำไปยังเกาะกระและอุเสนที่อยู่ห่างจากฝั่งไม่กี่ร้อยเมตรได้ แต่ต้องระวังหินและปะการังใต้น้ำให้ดี เพราะอาจบาดเท้าได้ เดี๋ยวจะชวนให้ทริปการมาเกาะสวรรค์แห่งนี้ไม่สนุกเอา
วันนี้บนเกาะมีกิจกรรมทำหมันและฉีดวัคซีนสุนัขและแมว เพื่อลดจำนวนประชากรสัตว์บนเกาะหลีเป๊ะ ที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นทุกปี โดยทีมงานจากปศุสัตว์จังหวัดสตูล
เลยหาดซันไรต์มาอีกนิด ใกล้ๆ กันเป็นหาดขวัญใจของคนชอบความเป็นส่วนตัว คือ หาดซันเซ็ท หรือหาดประมง เป็นหาดเล็กๆ ที่เงียบสงบบนเกาะหลีเป๊ะ หาดทรายขาวเนียนละเอียด เหมาะสำหรับการพักผ่อนแบบเงียบสงบ
เกาะหลีเป๊ะ เที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ในหน้ามรสุมควรตรวจสอบสภาพอากาศให้ดีก่อนเดินทางมา ฤดูกาลท่องเที่ยว คือระหว่างช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเมษายน
บน เกาะหลีเป๊ะ นอกจากมีกิจกรรมสนุกๆ มากมายให้นักท่องเที่ยวเลือกพักผ่อนแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถเช่าเรือหางยาวเที่ยวรอบเกาะ หรือจะไปเที่ยวเกาะเล็กเกาะน้อยใกล้เคียง ดำน้ำดูปะการังกันก็ได้ ความสนุกของการเที่ยวเกาะหลีเป๊ะ ทริปนี้ยังไม่หมด อดใจรออ่านต่อไป แล้วจะรู้ว่ามัลดีฟส์เมืองไทยนั้นสวยเกินห้ามใจ จนคุณต้องรีบหาวันว่า ตี๋ตั๋วมาเที่ยวกันเลยล่ะ
สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานตรัง โทร.0-7521-5867-8

เรื่องและภาพ: ธนปกรณ์ สุขสาลี
ขอขอบคุณการเดินทาง: กองประชาสัมพันธ์ในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานตรัง

วันอาทิตย์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

Toy Story Land…สุดยอดสวนสนุกแห่งจินตนาการ


ติมความใส ใส่ความซ่าส์ แล้วโลดแล่นลั้นล้า บินข้ามฟ้าไปค้นหาความมหัศจรรย์ใหม่ๆ ที่ ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ รีสอร์ท เราเริ่มต้นเดินทางด้วยไฟล์เช้าที่ไม่เช้ามากเกินของ ฮ่องกง แอร์ไลน์ ในชั้นเฟิร์สคลาสที่แสนสบาย เพียง 3 ชั่วโมง ก็ถึงฮ่องกงแล้ว เตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อม มุ่งหน้าสู่ดินแดนแห่งโลกจินตนาการ ที่ซึ่งจะทำให้คุณสนุกจนลืมอายุกันไปเลย
สัมผัสมนต์เสน่ห์ในดินแดนแห่งจินตนาการ
ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์รีสอร์ท เป็นสถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำระดับโลก ซึ่งฮ่องกงถือเป็นหนึ่งใน 5 ประเทศทั่วโลก ที่ได้รับเลือกให้เปิดสวนสนุกแห่งนี้ พอได้เข้าไปเหมือนต้องมนต์ให้เป็นเด็กอีกครั้ง ด้วยบรรยากาศและเสียงเพลงปลุกเร้าชีวิตชีวา เดินผ่านเมนสตรีท ยูเอสเอ ซึ่งจำลองตึกแถวร้านค้าในอดีตยุครุ่งเรืองของอเมริกา ก็จะเข้าสู่โซนสวนสนุกซึ่งแบ่งเป็น 3 ส่วนหลักๆ คือ แฟนตาซีแลนด์, ทูมอร์โรว์แลนด์ และแอดเวนเจอร์แลนด์ แต่ละโซนมีเครื่องเล่นเด่นๆ ให้ได้ตื่นเต้น ที่ฮอตฮิตก็มี Space Mountain, Jungle River Cruise, Buzz Lightyear Astro Blasters และอีกมากมาย ระหว่างเดินชมคุณยังจะได้กระทบไหล่เพื่อนดิสนีย์อย่าง มิกกี้ มินนี่ โดนัลด์ สติทช์ และบัซ ไลท์เยียร์ อย่างใกล้ชิดอีกด้วย
Toy Story Land...สนุกกับสวนหลังบ้านของแอนดี้
หากจินตนาการสุดล้ำไม่ได้หยุดอยู่กับที่ เพราะตอนนี้ได้เปิดพื้นที่แห่งใหม่ Toy Story Land โดยนำเรื่องราวความสนุกจากภาพยนตร์ทอยสตอรี่ทั้ง 3 ภาค มาให้คนชอบเที่ยวสวนสนุกได้สัมผัส เราเดินดิ่งเข้าไปทางสวนหลังบ้านของแอนดี้ ท่ามกลางอากาศเย็นสบาย พอก้าวเข้าสู่โลกแห่งของเล่นที่มีขนาดใหญ่กว่าปกติ ก็รู้สึกเหมือนถูกเนรมิตรให้มีขนาดจิ๋วเท่าของเล่นในชั่วพริบตา มาที่นี่นอกจะถ่ายรูปเล่นที่ Barrel of Fun กับวู้ดดี้และเจสซี่แบบประชิดตัวแล้ว ต้องไม่พลาด 3 เครื่องเล่นสุดสนุก แนะนำให้เริ่มแบบเบาๆ ด้วย Slinky Dog Spin รถสุนัขที่วิ่งไล่หางตัวเองด้วยจังหวะการกระโดดโลดเต้นอย่างร่าเริง จากนั้นเตรียมตัวไปเป็นพลทหาร ผจญภัยลอยอยู่กลางอากาศกับ Toy Soldier Parachute Drop เครื่องเล่นกระโดดร่มจำลองจะเคลื่อนลงจากระดับความสูง 25 เมตร สู่พื้นดินด้วยความตื่นเต้นแบบหล่นวูบพอดีๆ และยังเสียวได้อีกกับ RC Racer เพียงแค่เห็นและ ได้ยินเสียงกรี๊ดอย่าเพิ่งได้ถอดใจ เพราะถือเป็นสุดยอดรถแข่งของเล่นความเร็วสูงสุดบนรางรูปตัว U สูง 27 เมตร ถ้าไม่ขึ้นถือว่ามาไม่ถึงนะ
สารพันโชว์และขบวนพาเหรดสุดอลังการ
พลาดไม่ได้เลยกับการมาดินแดนแห่งสวนสนุก ก็คือการไปชมโชว์ต่างๆ เช่น Mickey's Philharmagic ภาพยนตร์ 4 มิติ ที่จะพาท่องไปในดินแดนของโลกดีสนีย์แลนด์แบบรอบด้าน, Stitch Encounter พูดคุยกับเจ้าสติทช์ตัวการ์ตูนสุดกวนจากต่างดาวแบบอินเตอร์แอ็ททีฟ ซึ่งจะทำให้คุณหลงรักโดยไม่รู้ตัว, Festival of The Lion King โชว์ละครเพลงจัดเต็มทั้งแสง สี เสียง และคอสตูม, Toy Soldier Boot Camp ทหารตัวเขียวที่จะมาแสดงความพร้อมเพียงและให้คุณได้ร่วมสนุกไปด้วย พอช่วงเย็นต้องเตรียมตัวไปดูขบวนพาเหรดสุดอลังการ Flight of Fantasy Parade จากตัวการ์ตูนในดินแดนต่างๆ ให้คุณสัมผัสกันอย่างใกล้ชิด ปิดท้ายวันด้วย Disney in the Stars การแสดงพลุในยามค่ำคืน จัดทำขึ้นเป็นพิเศษเพื่อฉลองครบรอบ 5 ปีของ ฮ่องกงดีสนีย์แลนด์ ซึ่งงดงามตระการตา และสุดแสนจะโรแมนติกจนคู่รักตรงหน้าต้องประทับรอยจูบให้อิจฉา
Fast Facts
- ฮ่องกงแอร์ไลน์ส เปิดให้บริการเที่ยวบินระหว่างฮ่องกง-กรุงเทพฯ วันละ 2 เที่ยว โดยใช้เวลาบินจากกรุงเทพฯ ราว 3 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดและจองตั๋วโดยสารได้ที่ โทร. 0-2160-5138 www.hongkongairlines.com
- ค่าเข้าฮ่องกงดีสนีย์แลนด์ ตั๋ว 1 วัน ราคา HK$399 ตั๋ว 2 วัน ราคา HK$499
- ที่พักแนะนำ Disney's Hollywood Hotel โรงแรมสไตล์อาร์ตเดโคแต่น่ารักเพราะนำลวยดลายมิกกี้เมาท์เข้าไปผสมผสานในการตกแต่งทั้งโรงแรม และ Hong Kong Disneyland Hotel โรงแรมหรูในสไตล์วิกตอเรียน เก๋ที่ร้านอาหาร Enchanted Garden เพราะจะมีตัวการ์ตูนมาหาคุณและร่วมถ่ายรูปแบบตัวต่อตัว

ตะลุยเดี่ยวเที่ยวเคปทาวน์ แอฟริกาใต้


เคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้ เมืองในฝันที่ใครๆ ก็อยากเดินทางไปเยือนสักครั้ง! แต่สำหรับใครที่ยังไม่มีเวลา หรือมีโอกาสได้ไป สนุก! ท่องเที่ยว มีรูปสวยๆ จากช่างภาพฝีมือดี คุณปณิธาน กวางวโรภาส ที่ได้เดินทางไปเก็บภาพเมืองเคปทาวน์ Cape Town ประเทศแอฟริกาใต้ เมื่อปี 2552  
โดยเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของโลก และยังเป็นเมืองที่ใช้จัดการแข่งฟุตบอลโลก 2010 หรือ WORLD CUP 2010 ในนัดชิงชนะเลิศด้วย แฟนๆ ฟุตบอลหลายคนคงจำกันได้ดี 
คุณปณิธาน ได้กล่าวไว้ในบล็อกของตัวเองเกี่ยวกับแรงบันดาลใจในการเดินทางว่า "เป็นการเดินทางข้ามทวีปครั้งแรกของผม แม้ที่ผ่านมาจะเคยไปต่างประเทศมาบ้าง แต่ก็อดตื่นเต้นไม่ได้ เพราะครั้งนี้ไม่มีเพื่อนหรือคนรู้จักไปด้วยเลย ทริปนี้ใช้เวลาทั้งหมด 15 วัน ไปทำงานส่วนหนึ่ง และไปเที่ยว 7 วัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการออกไปกับไกด์ส่วนตัวและมีโปรแกรมค่อนข้างแน่นอน แต่เมืองนี้มีเที่ยวเยอะมาก ดูไปเรื่อยๆสบายๆ แล้วกันนะครับ"
มาชมภาพสวยๆ ให้อิ่มใจกัน ไม่แน่ว่า เมื่อคุณดูภาพเหล่านี้แล้ว คุณอาจเกิดแรงบันดาลใจ เดินทางไปเที่ยวเคปทาวน์บ้างก็ได้ 

ข้อมูลเพิ่มเติม: 
เคปทาวน์ เป็นเมืองใหญ่อันดับสามและเป็นเมืองหลวงศูนย์กลางของฝ่ายนิติบัญญัติของประเทศแอฟริกาใต้ มีพื้นที่ 2,455 ตารางกิโลเมตร มีประชากร 3,497,097 คน (พ.ศ. 2550) และเป็นเมืองเก่าแก่มีอายุกว่า 300 ปี
ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่สวยที่สุดและมีเสน่ห์ที่สุดเมืองหนึ่งในโลก เป็นเมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศแอฟริกาใต้ ตรงแหลมกู๊ดโฮป ยื่นออกไปทางระหว่างสองมหาสมุทร คือ มหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแอตแลนติก จึงมีสภาพภูมิอากาศอบอุ่นแบบเมดิเตอร์เรเนียน จุดเด่นของเมืองอยู่ที่ภูเขาลูกใหญ่กลางเมืองที่สามารถมองเห็นได้จากทุกสารทิศ รูปทรงแปลกตาคือ มีลักษณะเสมือนโต๊ะที่ตั้งอยู่บนแผ่นดินอย่างไรอย่างนั้น จึงทำให้ภูเขาลูกนี้ได้รับการตั้งชื่อว่า ภูเขาโต๊ะ หรือ Table Mountain มีความสูง 1,086 เมตร

เกาหลี พาทัวร์ ‘ชม-ช็อป-ชิม‘ กับ ‘แบล็คแจ็ค‘


ระทับใจอย่างแรงส์!! เมื่อสองสาวเก่ง แห่ง บีบี คลินิก "ธัญญ่า-ธัญญาเรศ เองตระกูล" และ "ปุ๊กกี้-สินีนารถ เองตระกูล" ร่วมจัดทริปพาสื่อมวลชน ชมนวัตกรรม ‘สเต็มเซลล์' แบบล้ำลึกทุกรายละเอียด พร้อมทั้งยังพา ชม-ช็อป-ชิม อาหารอร่อยๆ และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ตลอดทริป โดยมี หนุ่มหน้าใสสไตล์เกาหลี "แบล็คแจ็ค-จารุพงศ์ กล้วยไม้งาม" ร่วมสร้างสีสันตลอดการเดินทาง ณ กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันก่อน
คึกคักตั้งแต่ลงเครื่อง เพราะนอกจาก หนุ่มแบล็คแจ็ค จะได้ท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ทั้ง ศาลเจ้าชงเมียว, พระราชวัง ชาง ด็อก กุง , วัดโชเกชา ฯลฯ แล้ว ยังได้ร่วมอัพเดทนวัตกรรม ‘สเต็มเซลล์' จาก ดร.จุง ซอง อิล แห่ง ท็อป คลินิก (พาร์ทเนอร์ บีบี คลินิก) พร้อมชมขั้นตอนการทำอย่างใกล้ชิด ซึ่งงานนี้ ‘ซิงเกิ้ลมัม' เอ อัญชลี ได้ร่วมทริปมาเป็นผู้ทดสอบนวัตกรรมสุดฮิต ท่ามกลางความตื่นตาตื่นใจ ของสื่อมวลชนเป็นอย่างยิ่ง...
จากนั้น ครอบครัวเองตระกูล โดย คุณพ่อแป๋ง-สมใจนึก ควงทั้งลูกชาย เป๊ก-สัณชัย, ลูกสาว ปุ๊กกี้- สินีนารถ และลูกสะใภ้สุดเลิฟ ธัญญ่า มาเป็นเจ้าภาพดูแลตลอดทริปแบบจัดเต็ม ทั้งพาไปลิ้มรสอาหารขึ้นชื่อของชาวเกาหลี ไม่ว่าจะเป็น ไก่ตุ๋นโสม, บูลโกกิ, แทจือคาลบิ, ไก่ผัดเส้นบุก ฯลฯ รวมทั้งที่พักสุดหรู ย่านใจกลางเมียงดง เรียกว่า ลงมาปั๊บ ก็ช็อปปุ๊บไม่ต้องนั่งรถไปไกลให้เมื่อยตุ้ม! ...ก่อนกลับ ทีมงานยังแวะช็อปปิ้งย่าน เมียงดง, ทงแดมุน พร้อมทั้งเยี่ยมชมความงาม และแชะภาพสวยๆ จากหอคอยโซลทาวเวอร์ โดยเฉพาะไฮไลต์มุม ‘คล้องกุญแจคู่รัก' แต่ไม่ยักเห็น หนุ่มแจ็ค คล้องกุญแจกะเค้าซ้ากดอก!!
ก็รักกันมา 5 ปี กับ "น้องแบลล์" จน เหนียว แน่น หนึบ! ขนาดนี้ คงกะรอ ‘สวมแหวน' เลยทีเดียว ชิมิจ๊ะ หนุ่มแบล็คแจ็ค!! อิอิ