วันพฤหัสบดีที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ขอวีซ่าสหรัฐอเมริกา ต้องเตรียมอะไรบ้าง


หนังสือเดินทาง

          สำหรับนักท่องเที่ยวที่กำลังจะเดินทางไปเที่ยว "สหรัฐอเมริกา" การขอวีซ่าถือเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นที่ขาดไม่ได้ กระปุกท่องเที่ยวจึงขอรวบรวมข้อมูลในการเตรียมตัวเพื่อขอวีซ่าเข้าสหรัฐอเมริกามาฝากกันค่ะ
           เอกสารที่ใช้ในการยื่นขอวีซ่าสหรัฐอเมริกา

         - แบบฟอร์มขอวีซ่า DS160 สมัครใน thai.bangkok.usembassy และปริ้นท์เอกสารออกมา

         - หนังสือเดินทางที่มีอายุใช้งานไม่ต่ำกว่า 6 เดือน (หากมีหนังสือเดินทางเล่มเก่ากรุณานำมาแสดงด้วย)

          - รูปถ่ายสี ขนาด 2x2 นิ้ว ขนาดสี่เหลี่ยมจัตุรัส เห็นใบหู ถ่ายไม่เกิน 6 เดือน 1 รูป ไม่มีการตกแต่งภาพถ่ายใดๆทั้งสิ้น พื้นหลังเป็นสีขาวเท่านั้น และเห็นสัดส่วนใบหน้าเกิน 50% ของรูปถ่าย

          - ใบเสร็จค่าธรรมเนียมวีซ่า

          - สำเนาทะเบียนบ้าน

          - สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน (ควรนำบัตรตัวจริงไปด้วย)

          - สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้ยื่นคำร้อง ที่มีอายุบัญชีมากกว่า 6 เดือน (หากเล่มปัจจุบันมีอายุไม่ถึง 6 เดือน ต้องถ่ายสำเนาเล่มเก่าทั้งเล่มด้วย) และหนังสือรับรองจากธนาคาร

          - เบอร์โทรศัพท์ที่บ้าน, ที่ทำงาน, สถานศึกษา, เบอร์มือถือ (จำเป็นมาก)

          - ใบจองตั๋วเครื่องบิน

          - ใบจองโรงแรม / ที่พักภายในสหรัฐอเมริกา

          - หลักฐานทางด้านการทำงาน (เอกสารที่ยื่นวีซ่าทุกอย่าง จะต้องออกไม่เกิน 3 เดือน นับจากวันเดินทาง)

          - ในกรณีที่ผู้ยื่นเป็นลูกจ้าง ข้าราชการ ให้แสดงหนังสือรับรองการทำงานจากบริษัทหรือหน่วยงานที่สังกัดเป็นภาษาอังกฤษตัวจริง (ให้ระบุตำแหน่ง, วันเริ่มทำงาน, อัตราเงินเดือน)

          - ในกรณีที่ประกอบธุรกิจส่วนตัว ให้แสดงหนังสือรับรองจดทะเบียนการค้า

          - ในกรณีนักเรียนหรือนักศึกษา ให้แสดงหนังสือรับรองสถานภาพการเป็นนักศึกษา เป็นภาษาอังกฤษตัวจริง

          - สำเนาทะเบียนสมรส หรือกรณีหย่าให้ขอสำเนาทะเบียนหย่า

          - สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ – นามสกุล (กรณีที่เคยมีการเปลี่ยนชื่อหรือนามสกุล)

          - กรณีผู้อยู่ใต้อุปการะเลี้ยงดู เช่น แม่บ้านที่ไม่ได้ทำงาน ให้แสดงทะเบียนสมรส, หนังสือรับรองการทำงาน, สำเนาสมุดเงินฝาก, ทะเบียนบ้าน, บัตรประชาชนของสามี

         - กรณีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ไม่ได้เดินทางพร้อมบิดาหรือมารดา ให้แสดงหนังสือรับรองการทำงาน, สำเนาสมุดเงินฝาก, ทะเบียนบ้าน, บัตรประจำตัวประชาชนของบิดา – มารดาเพิ่มเติม และหนังสือให้ความยินยอมบุตรเดินทางกับบุคคลอื่นได้ ออกโดยอำเภอหรือสำนักงานเขต ถ้าบิดาหรือมารดาถึงแก่กรรมต้องมีสำเนามรณะบัตร

           ข้อมูลเพิ่มเติมในการยื่นขอวีซ่าสหรัฐอเมริกา
           ในการยื่นของวีซ่าเข้าสหรัฐอเมริกานั้น จะต้องซื้อ PIN หรือ รหัสประจำตัว สามารถซื้อได้ที่ทำการไปรษณีย์ หลังจากที่กรอกข้อมูลเข้าไปกรอกข้อมูลสมัครวีซ่า DS-160 เรียบร้อยแล้ว เราก็ต้องเข้าไปนัดวันสัมภาษณ์ผ่านเว็บไซต์ แต่ก่อนที่เราจะเข้าไปนัดวันสัมภาษณ์ได้ จำเป็นจะต้องมี PIN ก่อน โดยบอกกับเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ว่า ขอซื้อ PIN นัดสัมภาษณ์วีซ่าสหรัฐอเมริกาทางเว็บไซต์ จากนั้นแจ้งชื่อและนามสกุลภาษาอังกฤษที่ตรงกับหนังสือเดินทาง หมายเลขบัตรประชาชน และเบอร์โทรศัพท์ เจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ก็จะพิมพ์ Code PIN ใส่กระดาษ ในนั้นจะระบุชื่อเรา หมายเลขบัตรประชาชน เบอร์โทรศัพท์ และรหัส PIN ซึ่งเป็นตัวเลขจำนวน 15 ตัว อยู่ตรง Pin Generator no. และทางไปรษณีย์จะให้เอกสารแนบมาอีกแผ่น เป็นเอกสารการขอรับบริการข้อมูลวีซ่า ก็จะเป็นรายละเอียดเกี่ยวกับการใช้ PIN

            PIN ที่ใช้นัดสัมภาษณ์ทางเว็บไซต์ราคา 384 บาท หรือ 12 USD ซึ่งรหัส PIN จะมี 2 แบบ คือ รหัส PIN ที่ใช้ทางเว็บไซต์ และ รหัส PIN ที่ใช้ทางโทรศัพท์ ซึ่งราคาแพงกว่า 20 USD PIN จะไม่สามารถใช้ร่วมกันได้ ต้องเป็นผู้ที่มีชื่อซื้อ PIN นั้นเท่านั้น แต่จะมีในกรณีที่คนในครอบครัวที่อยู่ในทะเบียนบ้านเดียวกัน สามารถใช้ PIN ร่วมกันได้ ซึ่ง 1 PIN สามารถใช้ได้สูงสุด 5 คน และ PIN มีอายุ 90 วัน หลังจากที่ซื้อ จริง ๆ เราซื้อ PIN มาเตรียมไว้ก่อนก็ได้ เพราะว่า PIN จะใช้งานได้ หลังจาก 13.00 น. ของอีกวันหลังจากที่ซื้อ PIN ค่ะ

            ประเภทของวีซ่าของสหรัฐอเมริกา
            1. วีซ่าท่องเที่ยว วีซ่าธุรกิจ (วีซ่า B2 และ วีซ่า B1 (Non-Immigrant visa) เป็นวีซ่าสำหรับใช้เดินทางเข้าอเมริกา เป็นการชั่วคราวเพื่อจุดประสงค์ทางการท่องเที่ยวหรือธุรกิจ

           1.1 วีซ่าท่องเที่ยว (วีซ่าอเมริกา ประเภท B2)

           1.2 วีซ่าธุรกิจ (วีซ่าอเมริกา ประเภท B1)

           
 2.) วีซ่านักเรียน F1 (Student Visa F1 (Non-Immigrant visa) เป็นวีซ่าสำหรับใช้เดินทางเข้าอเมริกาเป็นการชั่วคราวเพื่อเรียนต่อ ไม่ว่าจะเป็นหลักสูตรเรียนภาษาอังกฤษ หรือเรียนปริญญาโทก็ตาม แบ่งออกเป็น

            2.1 วีซ่านักเรียนอเมริกา (F-1 Student Visa)

            2.2 วีซ่านักเรียนแลกเปลี่ยน (วีซ่าอเมริกา J-1)

            3.) วีซ่าถาวร (Immigrant visa)

            เป็นวีซ่าสำหรับผู้ที่ต้องการไปอาศัยอยู่ที่สหรัฐอเมริกาเป็นการถาวร ในการขอวีซ่าอเมริกาชนิดนี้จะต้องได้รับการสนับสนุนจากประชากรของสหรัฐอเมริกา (U.S. Citizen หรือ LPR relative) หรือโดยนายจ้างที่เข้าข่ายในวิชาชีพที่สามารถขอวีซ่าชนิดนี้ ซึ่งการขอวีซ่าชนิดนี้ ไม่สามารถดำเนินการที่สถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย (U.S. Embassy Bangkok) ได้ เพราะเป็นหน้าที่ของ Department of Homeland Security (DHS) ในสหรัฐอเมริกา โดยสามารถหาข้อมูลอย่างละเอียดได้ที่ http://bangkok.usembassy.gov/immigrant_visas.html

             ค่าธรรมเนียมวีซ่า

             สำหรับวีซ่าสหรัฐอเมริกาชั่วคราวมีค่าธรรมเนียม 160 USD หรือประมาณ 4,620 บาท โดยผู้ขอวีซ่าต้องชำระค่าธรรมเนียมล่วงหน้าได้ที่ Pay at Post ไปรษณีย์ไทย และชำระเป็นเงินบาทตามเรตค่าเงินที่ทางไปรษณีย์ไทยกำหนดส่วนค่าธรรมเนียมวีซ่าประเภทธุรกิจ/ท่องเที่ยว/นักเรียน/ผู้เข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยน และอื่น ๆ ต้องชำระค่าธรรมเนียมประมาณ 5,120 บาท

             ติดต่อสอบถามข้อมูล

            - แผนกกงสุล สถานทูตสหรัฐอเมริกา กรุงเทพมหานคร เลขที่ 95 ถนนวิทยุ กรุงเทพฯ 10330 ประเทศไทย อีเมล์ visasbkk@state.gov  สำหรับคำถามเกี่ยวกับวีซ่าถาวรและวีซ่าคู่หมั้น กรุณาส่งอีเมล์มาที่ visasbkkiv@state.gov
            - ศูนย์บริการข้อมูลการสมัครวีซ่าและการจองวันสัมภาษณ์ทางเว็บไซต์http://thailand.us-visaservices.com

             - ศูนย์บริการข้อมูลการสมัครวีซ่าและการจองวันสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ 001-800-13-202-2457

             - ข้อมูลเกี่ยวกับวีซ่าผ่านระบบโทรศัพท์อัตโนมัติ วีซ่าชั่วคราว โทรศัพท์ 02-205-5003 (ภาษาอังกฤษ) หรือ 02-205-5007 (ภาษาไทย)

             - สถานทูตสหรัฐอเมริกาเชียงใหม่และจังหวัดในภาคเหนือ เลขที่ 387 ถนนวิชยานนท์ เชียงใหม่ 50300 โทรศัพท์ : 053 252 629 โทรสาร : 053 252 633

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น