วันอังคารที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ล่องใต้เที่ยวทะเลเมืองตรัง ลุยป่า-ลอดถ้ำสัมผัสสีเขียว


จังหวัดตรัง

จังหวัดตรัง

ล่องใต้เที่ยวทะเลเมืองตรัง ลุยป่า-ลอดถ้ำสัมผัสสีเขียว
 (ไทยโพสต์)
โดย :  สรณะ 

           หากพูดถึงจังหวัดสีเขียว เมืองตรัง อยู่ในใจของนักผจญภัยอย่างแน่นอน ด้วยความยาวของชายฝั่งทะเลอันดามันกว่า 120 กม. ที่มีหาดทรายขาว ปะการังสวย น้ำทะเลใส หรือเกาะแก่งกลางทะเลที่งดงามด้วยภูมิทัศน์ นอกจากนี้ ยังมีทรัพยากรธรรมชาติอื่น ๆ ทั้งป่า เขา น้ำตก ถ้ำ หินสูงตระหง่านที่ล้อมรอบด้วยหน้าผาสูง งดงามเกินคำบรรยาย   

           การเดินทางของเราเริ่มต้นด้วยการเที่ยวป่าเป็นอันดับแรก ที่สวนพฤกษศาสตร์สากลภาคใต้ (ทุ่งค่าย) อ.ย่านตาขาว ก่อนมาที่นี่หลายคนนึกถึงผืนป่าใหญ่กว้างขวาง มีเทือกเขาทอดตัวยาว หรือมีเขาสูงเตี้ยสลับกันไป แต่สวนพฤกษศาสตร์สากลภาคใต้ สภาพพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบ เป็นต้นน้ำของลำห้วยเล็ก ๆ ลักษณะป่าจะเป็นป่าดิบชื้น ป่าพรุ และทุ่งหญ้าเป็นพื้นที่ป่าแวดล้อมไปด้วยชุมชนเล็ก ๆ โดยรอบ จึงกล่าวได้ว่าเป็นเมืองล้อมป่า มิใช่ป่าล้อมเมืองเฉกเช่นผืนป่าทั่วไป

จังหวัดตรัง

           ภายในมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติให้เลือกหลายเส้นทาง ที่พลาดไม่ได้ คือเส้นทางสะพานศึกษาเรือนยอดไม้ (Canopy Walk Way) ลักษณะเป็นหอคอยไต่ระดับมีสะพานแขวนเชื่อมต่อกัน ระยะทางยาวประมาณ 175 เมตร สูงประมาณ 18 เมตร สร้างขึ้นเพื่อใช้ศึกษาความแตกต่างทางชีวภาพของป่าดิบในความสูงระดับต่าง ๆ และสามารถมองเห็นป่าไม้ในระยะใกล้ชิดอีกมุมมองหนึ่ง และได้สัมผัสกับธรรมชาติของสังคมพืชเรือนยอดไม้ของต้นไม้สูง ๆ ได้อย่างชัดเจนในระดับสายตา ไม่ว่าจะเป็นใบ ดอก และผล 

           อีกทั้งจะได้พบเห็นสัตว์ป่าจำพวกนก กระรอก กระแต ลิง ค่าง โดยไม่ต้องแหงนหน้าขึ้นฟ้า แล้วใช้กล้องส่อง ถ้ามองลงมาด้านล่างจะเห็นรอยต่อระหว่างป่าดิบชื้นกับป่าพรุได้ชัดเจน โดยสถานที่ดังกล่าวนี้ สามารถเที่ยวได้ตลอดปี ใช้เวลาเดินประมาณ 1-2 ชั่วโมง

จังหวัดตรัง
    
           ต่อมาเราก็ออกเดินทางไปพายเรือระทึก ถ้ำเล เขากอบ อ. ห้วยยอด เป็นถ้ำที่มีสายน้ำไหลผ่านตัวถ้ำ การเข้าชมความงามของถ้ำดังกล่าวไม่เหมือนการเข้าชมถ้ำที่อื่น ๆ เพราะผู้เข้าชมต้องนั่งเรือท้องแบนไฟเบอร์ขนาด 5 คน ที่ทาง อบต.เขากอบจัดเตรียมไว้ให้ พร้อมคนพายหัวท้ายเรือจะเคลื่อนตัวลอยเลาะเลียบสายน้ำไปตามลำคลองเล็ก ๆ อย่างช้า ๆ ให้ได้ชื่นชมบรรยากาศสบาย ๆ ของสองฟากฝั่งที่ร่มรื่นเขียวครึ้มไปด้วยต้นยาง

           มารู้สึกตัวอีกทีเมื่อเรือมาชะลอตัวอยู่หน้าภูเขาสูงชัน ที่เบื้องหน้ามีเพียงสายน้ำที่ไหลลอดหายเข้าไปใต้ภูเขา ระหว่างทางเรือจะเทียบท่าให้เดินขึ้นไปในเวิ้งถ้ำเพื่อชมความงามของหินงอกหินย้อยรูปร่างต่าง ๆ มีทั้งหมด 8 ถ้ำ แต่ปัจจุบันเปิดให้นักท่องเที่ยวชมเพียง 5 ถ้ำ

           ไฮไลต์ของการล่องเรือจะอยู่ในช่วงที่เพดานต่ำสุด เรียกช่วงนี้ว่า "การลอดท้องมังกร" ทุกคนบนเรือต้องนอนราบไปกับเรือ เพราะระยะห่างระหว่างเพดานถ้ำอยู่ห่างจากปลายจมูกประมาณแค่หนึ่งฝ่ามือ ใช้เวลาในการล่องเรือประมาณ 1 ชั่วโมง ทุกคนที่เข้าไปแล้วออกมา จะบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า สนุกและตื่นเต้นแบบไม่เคยเจอมาก่อน

จังหวัดตรัง

           ถัดมาก็ถึงคราวต้องลงทะเล มิเช่นนั้นเดี๋ยวจะมาไม่ถึงตรัง โดยเฉพาะถ้ำมรกต ณ เกาะมุก ถือว่าเป็นอันซีน ไทยแลนด์ เป็นถ้ำทะเลที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางอ้อมกอดของภูผา มีความงดงามตระการตาอย่างมาก ซึ่งจะเข้า-ออกได้เฉพาะช่วงน้ำลงเท่านั้น 

           จากปากทางเข้าถ้ำซึ่งเป็นโพรงเล็ก ๆ ช่วงเวลาน้ำลด โพรงนี้จะสูงพ้นระดับน้ำพอให้เรือคายัค ลอดมาได้ แต่หากช่วงน้ำมากอาจจะต้องว่ายน้ำลอยคอเกาะกันเข้าไปตามทางที่คดโค้ง ระยะทางประมาณ 80 เมตร

จังหวัดตรัง

           เมื่อพ้นปากถ้ำออกมา อีกด้านจะเป็นหาดทรายขาวสะอาดล้อมรอบด้วยหน้าผาสูงชัน ที่มีท้องฟ้าเป็นหลังคา และผนังแต่งแต้มด้วยลายเขียวของใบไม้ โพรงที่ลอดเข้าถ้ำมรกตจะอยู่ทางด้านทิศตะวันตกของตัวเกาะ ยามแสงอาทิตย์ทำมุมพอเหมาะ ทั้งเกาะและเวิ้งถ้ำก็พลันกลายเป็นสีเขียวมรกตสวยงาม ประหนึ่งจิตรกรรมแห่งธรรมชาติที่ได้บรรจงสร้างให้มวลมนุษย์ได้ชื่นชม

           หลังจากว่ายกลับออกมาหน้าปากถ้ำมรกต รอบ ๆ เกาะมุกยังมีแนวปะการังแข็งอ่อน กัลปังหา และปลาหลากชนิดน่าชมมาก เหมาะสำหรับทั้งการดำน้ำตื้นและลึก นอกจากนี้ หากแวะไปที่ชายหาดสวยงามด้านฝั่งตะวันออกของเกาะ ก็จะได้พบกับวิถีชีวิตชาวประมงของชุมชนบ้านเกาะมุก ซึ่งสะท้อนให้เห็นการใช้ชีวิตแบบพอเพียงที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มบนเกาะเล็ก ๆ แห่งนี้

จังหวัดตรัง

           ปิดท้าย ด้วยการนั่งเรือไปพายคายัครอบ เกาะกระดาน ชมปะการังน้ำตื้น ถือเป็นเกาะที่สวยแห่งหนึ่งของทะเลตรัง  อยู่ทางด้านตะวันตกของเกาะมุก และเกาะลิบง มีเนื้อที่กว่า 600 ไร่

           หาดทรายที่นี่ขาวเนียนละเอียดมากเหมือนแป้ง น้ำทะเลใสสีสวยจนเห็นริ้วทรายใต้พื้นน้ำ สุดชายหาดด้านเหนือ นักท่องเที่ยวจะได้เห็นแนวปะการังทอดยาวออกไปในทะเลเกือบร้อยไร่ เช่น ปะการังสมอง ปะการังเขากวาง ปะการังอ่อนหนามแดง และสามารถมองเห็นปลาหลากชนิดที่มีสีสันสวยงามแหวกว่ายไปมาอย่างชัดเจน เป็นเสน่ห์ที่ไม่เหมือนเกาะอื่น ๆ ด้วยเหตุนี้เอง จึงถูกเลือกให้เป็นสถานที่จัดงานวิวาห์ใต้สมุทรของจังหวัดตรัง

จังหวัดตรัง

           นอกจากนี้ ที่หน้าหาดยังเป็นที่ชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามมาก สามารถมองเห็นเกาะมุก เกาะแหวน เกาะเชือก เกาะม้าเรียง ไปจนถึงเกาะไหง จากหาดนี้มีเส้นทางเดินเท้าไปชมยังหาดอื่น ๆ ของเกาะได้ เช่น หาดอ่าวช่องลม อยู่ทางฝั่งตะวันตกของเกาะ ซึ่งเป็นจุดเฝ้ารอชมพระอาทิตย์ตกดิน ลักษณะหาดเป็นหาดเล็ก ๆ ทรายเม็ดละเอียด แต่มีโขดหินสีน้ำตาลเกลื่อนกลาดเต็มหาด เป็นภูมิทัศน์ที่ดูแปลกตา ทางทิศใต้ของเกาะมีแนวปะการังน้ำตื้นอยู่ด้านหน้าหาดอ่าวเนียง ซึ่งเป็นจุดดำน้ำอีกแห่งหนึ่งของเกาะกระดาน

จังหวัดตรัง

           เห็นความมหัศจรรย์ของเมืองตรังแล้ว เล่นเอาหลายคนอยากจัดกระเป๋ามาเที่ยวได้ทันที แต่มีคำเตือนนิดเดียวจากชาวตรัง ขอให้มาแต่ตัว และเก็บความทรงจำที่ประทับใจกลับออกไปเท่านั้น อย่าเข้ามาทำลายทรัพยากรธรรมชาติ อย่าเอาขยะมาทิ้งไว้ ขณะที่การพายเรือก็อย่าใช้ไม้ค้ำจนปะการังได้รับความเสียหาย ส่วนการไปถ้ำก็อย่าสัมผัสหินงอกหินย้อย เพราะจะทำให้มันตาย และหากเป็นไปได้ การเดินทางมาที่นี่ควรใช้รถไฟแทนเครื่องบิน เพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เป็นไปตามแนวคิด 7 Greens ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. 
 
           ง่าย ๆ แค่นี้ นักท่องเที่ยวทุกคนก็มีส่วนทำให้จังหวัดตรังคงความสวยงามตามธรรมชาติ และที่สำคัญมีส่วนช่วยรักษาโลกใบนี้อีกด้วย

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น