วันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ดอยหลวงเชียงดาว ความงามของขุนเขาที่ต้องไปสัมผัส

 ด้วยความสูงจากระดับน้ำทะเลถึง 2,225 เมตร ทำให้การจะไปเยือน “ดอยหลวงเชียงดาว” ถือเป็นเรื่องยากและลำบากพอสมควร แต่ความงดงามของทัศนียภาพอันงดงามรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นขุนเขาสลับซับซ้อน ทะเลหมอกสุดสายตา ความสมบูรณ์ด้วยดอกไม้ป่าภูเขา และนกที่หาชมได้ยาก กลับเป็นสิ่งที่ดึงดูดให้นักเดินทางต่างก็อยากไปพิชิตกันสักครั้ง เฉกเช่นเดียวกับ คุณ popumon สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่ได้มีโอกาสไปสัมผัสความงามของดอยหลวงเชียงดาว พร้อมถ่ายและบรรยากาศและวิธีการเดินทางมาให้เราได้ชมกันจ้า

  สรวงสวรรค์ “ดอยหลวงเชียงดาว” ถ้ายังเดินได้ แนะนำว่าต้องไป

          ออกเดินทางกับเพื่อน ๆ อีก 3 คน ขับไปเรื่อย ๆ จาก กทม. ในใจก็แอบคิดว่าจุดหมายปลายที่เราจะไปนั้นหน้าตาเป็นอย่างไรหนอ ?? ชื่อสถานที่ปลายทาง ณ ตอนนั้นยังไม่รู้เลยครับ ไปแบบไม่รู้อะไรเลย ไม่ได้ทำการบ้านอะไรมาก่อนเลย...รู้ว่าจะต้องเดินขึ้นดอยแค่นั้น (ผมคนเดียวนะ) มานั่งคิดอีกที ไปแบบนี้ก็ตื่นเต้นและสนุกดี 5555+ ความสวยข้างบนยอดสูงสุดนั้นมันมากมายกว่าที่เราวาดฝันไว้เสียอีก

          ทริปนี้คุ้มค่ากับ 3 วัน 2 คืน ที่แสนลำบากแบบฟิน ๆ ที่อุณหภูมิต่ำสุด -2 องศา (ตอนกลางคืน)

          การเดินทางเพื่อพิชิตดอยแบบคร่าว ๆ ครับ

          จากข้างล่าง-หน่วยพิทักษ์ป่าขุนห้วยแม่กอก ด้วย 4x4 = โดยสารประมาณ 2 ชั่วโมง
          หน่วยพิทักษ์ป่าขุนห้วยแม่กอก-จุดกางเต็นท์อ่างสลุง = เดินประมาณ 5-6 ชั่วโมง
          จุดกางเต็นท์อ่างสลุง-ยอดสูงสุด = เดินประมาณ 45 นาที (2 รอบเช้าเย็น)
          ยอดสูงสุด-จุดกางเต็นท์อ่างสลุง = เดินประมาณ 30 นาที (2 รอบเช้าเย็น)
          จุดกางเต็นท์อ่างสลุง-ปางวัว = เดินประมาณ 4-5 ชั่วโมง


ที่ยอดสูงสุดดอยหลวงเชียงดาว เราก็จะมองเห็นดอยพีระมิดและดอยสามพี่น้อง




 ดอยหลวงเชียงดาว สูง 2,225 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง
          ดอยพีระมิด สูง 2,175 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง
          ดอยสามพี่น้อง สูง 2,150 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง

          จากหน่วยพิทักษ์ป่าขุนห้วยแม่กอกถึงจุดกางเต็นท์อ่างสลุง ระยะทาง 8,500 เมตร มันช่างไกลเหลือเกิน เหนื่อยมาก ถึงแม้จะมีลูกหาบช่วยขนของแล้วก็ตาม ลูกหาบหนึ่งคนสามารถแบกของได้ 20 กิโลกรัม (เขากำหนดไว้) เดินมาได้ครึ่งทางก็มาเจอภาพแบบนี้ ทำเอาหายเหนื่อยกันเลย (เพราะยืนถ่ายพักกันนาน 55555+)



ยังไม่สะใจครับ จัด 800mm ส่องกันให้ดูใกล้ ๆ เลย



เกือบถึงจุดกางเต็นท์ก็มีวิวสวย ๆ แบบนี้ให้ยืนชม พักเหนื่อยกันอีก



ระหว่างทางผมแบกขาตั้งกับเลนส์ส่องนกไปด้วย เหนื่อยมาก ๆๆ ได้ภาพนกมาบ้างแบบไกล ๆ



ผมรั้งท้ายเสียแล้ว กลัวเพื่อน ๆ จะรอนาน เดี๋ยวจะไปถ่ายแสงเย็นไม่ทัน เลยตัดสินใจเก็บอุปกรณ์ถ่ายนกทั้งหมด มุ่งหน้าไปหาเพื่อน ๆ โดยพลัน จะหลับแล้ว ง่วงสุด ๆ พอไปถึงก็แอบตกใจนิดหน่อย...กางเต็นท์เตรียมอุปกรณ์ตั้งแคมป์กันครบหมดแล้ว คิดในใจสบายเลย เอ้ย !! ไม่ใช่...รู้สึกผิดครับ 555+ OK นั่งพักแป๊ปนึงเตรียมอุปกรณ์เฉพาะที่จำเป็น แล้วออกเดินทางมุ่งหน้าสู่จุดสูงสุดดอยหลวงเชียงดาวกันเลย !!! 45 นาทีเอง ตาย ๆ

          โอ้ว !! ข้างบนสวยมากทีเดียว ถ่ายรูป หมอปอ ซะหน่อย ทริปนี้เกิดขึ้นได้เพราะหมอปอคนนี้ครับ



 และแล้วเวลานี้ก็มาถึง...เมื่อกี้ตอนที่ผมขึ้นมาถึงยอดครั้งแรก ในใจก็คิดว่า "ที่นี่สวยดี" ณ เวลานี้ขอเปลี่ยนคำพูดใหม่ครับ "นี่มันสวรรค์ชัด ๆ"



เทคนิคที่ได้มาโดยบังเอิญ ณ ตอนนั้นครับ ได้มาโดยได้ยินเพื่อนคุยกันเรื่อง Flare เพื่อนอีกคนก็บอกว่าหาอะไรมาบังสิ เลยปิ๊งไอเดียนี้ขึ้นมาได้ครับ..."จิ้มสุริยะ" 5555+

          1. ถ่ายภาพแรกที่มี Flare
          2. ถ่ายภาพที่สองที่ตำแหน่งเดิม โดยใช้นิ้วปิดแหล่งกำเนิดแสง เช่น พระอาทิตย์ หลอดไฟ สปอร์ตไลท์ เป็นต้น
          3. เอามารวมซ้อน Layer ใช้ Mask ในการลบ Flare ที่ไม่ต้องการเป็นจุด ๆ ไป บางจุดถ้าอยู่ในพื้นที่โล่ง ๆ ไม่มี Details ซับซ้อนก็สามารถใช้ Healing Brush Tool หรือ Clone Stamp ได้

          ** ใช้ Mode M ในการถ่ายทั้ง 2 ภาพ
          ** ภาพที่เอานิ้วบังภาพจะ drop ลงมานิดหน่อย แต่สามารถปรับให้ตรงกันไม่ยาก



  และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่งามมาก ๆ ครับ แล้วก็แป๊ปเดียวด้วยที่เป็นแบบนี้ แสงแดดส้มอ่อนฉาบไปที่หมอก ดูแล้วสวยแปลกตาดีครับ




วันนี้เป็นวันที่โชคดีมาก ๆ ครับ มีคนบอกว่าทะเลหมอกส่วนมากจะเห็นได้ช่วงเช้า เอ๊ะ !! แต่นี่มันตอนเย็นนี่นา !!!! จะมีอะไรที่ฟินไปกว่าทะเลหมอกยามเย็น


มากันให้หมด ทะเลหมอก แสง Twilight แสงจักรราศี ดาวพระศุกร์ ทางช้างเผือก...เป็นช่วงเวลาที่ตื่นตาที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา และอยากจะบอกว่านี่คือครั้งแรกในชีวิตที่ผมได้เห็นทะเลหมอกของจริงกับตาตรงหน้า


  วันนี้นอนหลับฝันดีแล้ว...มาดู Time-Lapse ทะเลหมอกแบบสั้น ๆ กัน สั้นจริง ๆ ครับ ไม่เชื่อลองกดดู





พวกเราตื่นกันแต่เช้า อากาศหนาวมาก พื้นหญ้าปกคลุมไปด้วยเกร็ดน้ำแข็งเล็ก ๆ เดินกันชิล ๆ ไปรอแสงเช้าบนยอดสูงสุดอีกครั้ง ภาพนี้เป็นทิศตะวันออกดูไม่ค่อยมีอะไรโดดเด่นเลย โชคดีที่มีพระจันทร์สว่างเด่นลอยเหนือทะเลหมอก พร้อมกับขอบฟ้าสีส้มก่อนพระอาทิตย์ขึ้น




หลังจากนั้นช่วงบ่ายพวกเราก็หลับกันยาวเลย ตื่นมาก็นั่งเล่นคุยกัน พอใกล้เย็นก็เดินขึ้นไปบนยอดสูงสุดกันอีก วันนี้ก็ได้อีกอารมณ์หนึ่ง ถึงแม้ทะเลหมอกจะมีมากก็ตาม แต่พอช่วง Twilight กลับหายไปหมด แต่ก็ได้ท้องฟ้าที่งามมาก ๆ มาแทนครับ คุณคือผู้ที่มีพลังงานมากที่สุดในทริป หมอวี (นายแบบ) เหล่ามวลหมอกอย่าได้เกรงใจ จงออกมาให้เต็มที่ !!!! ริโอ เดอ จาเนโร



โจกับเสื้อแดงสุดเท่ กับหมอวีจอมพลัง VS ทะเลหมอก


    จงแสดงความงามออกมา



ช่วงเวลาที่รอคอยมาแล้ว วันนี้โลกเป็นสีม่วงชมพูนะครับ



สุดท้ายขอฝาก FB PAGE ไว้ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
          FB : http://www.facebook.com/popumon
          PAGE : http://www.facebook.com/insecthunter

          ขอบคุณเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ทุกคนมากครับ แถมเตียงนุ่ม ๆ ให้หลับฝันดีกันครับ




0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น