วันจันทร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2556

เที่ยวทำบุญไหว้พระ 4 วัดในพระนคร


ผ่านวันปีใหม่ไทยหรือวันสงกรานต์กันไปแล้ว หลายคนคงออกไปเล่นน้ำกันสะใจ จนลืมทำบุญไหว้พระกัน ถนนข้าวสารซึ่งมีผู้คนไม่ว่าชาวไทยหรือชาวต่างชาติมาเล่นน้ำกันอย่างล้นหลามทุกปี ก็มีหลายวัดที่น่าเข้าไป "ทำบุญไหว้พระ" ในวันนี้ "นายรอบรู้" ขอพาคุณไปรับบุญกันที่วัดสำคัญ4 วัดซึ่งอยู่ไม่ไกลจากถนนข้าวสารถ้าพร้อมแล้วตามเรามาเลย!
บริเวณด้านหน้าวัดสุทัศนเทพวรารามวรมหาวิหาร มีเสาชิงช้าเป็นจุดเด่น
เริ่มต้นที่วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร วัดเก่าแก่ที่สร้างในสมัยรัชกาลที่ 1 ตั้งอยู่ใจกลางพระนคร ด้านหน้ามีเสาชิงช้าตั้งอยู่เป็นจุดเด่น อาคารต่างๆ ในวัดเป็นสถาปัตยกรรมไทยที่ออกแบบอย่างสวยงามโดดเด่น และประดับตกแต่งด้วยศิลปะจีนผสมผสานกันอย่างลงตัวให้เราเดินชมได้ไม่มีเบื่อ อาคารที่สำคัญที่ไม่ควรพลาดชมคือพระวิหารหลวง ซึ่งมีภาพจิตรกรรมขนาดใหญ่และงดงาม รวมทั้งเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปองค์สำคัญ นั่นคือพระศรีศากยมุนี ซึ่งหล่อด้วยโลหะสัมฤทธิ์ สร้างสมัยราชวงศ์พระร่วงแห่งกรุงสุโขทัย ให้เราได้กราบไหว้นำบุญกลับบ้านแบบอิ่มอกอิ่มใจในวันสงกรานต์ปีนี้ทางวัดยังมีการจัดงาน "เย็นทั่วหล้ามหาสงกรานต์"ซึ่งมีการเทศน์มหาชาดก 13 กัณฑ์และพิธีสวดนพเคราะห์เสริมดวงชะตาอีกด้วย
พระศรีศากยมุนี พระพุทธรูปองค์สำคัญที่ประดิษฐานในพระวิหารหลวงวัดสุทัศนเทพวรารามวรมหาวิหาร
จิตรกรรมฝาผนังในพระอุโบสถวัดสุทัศนเทพวรารามวรมหาวิหาร
แต่ถ้ายังรู้สึกไม่อิ่มบุญก็ขอชวนให้ไปต่อที่วัดที่สอง ซึ่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากวัดแรกสามารถเดินไปได้แต่หน้าร้อนอย่างนี้พกร่มไปหน่อยน่าจะก็ดี วัดที่กล่าวถึงคือวัดราชบพิธสถิตมหาสีรามราชวรวิหารซึ่งเป็นวัดประจำรัชกาลที่ 5 วัดราชบพิธฯ แห่งนี้มีสิ่งที่น่าชมตั้งแต่ประตูทางเข้ากันเลยทีเดียว วัดอื่นๆประตูส่วนใหญจะเป็นรูปเทวดาแต่วัดนี้กลับเป็นทหารในชุดเครื่องแบบทหารซึ่งแต่ละประตูเครื่องแบบจะไม่ซ้ำกันเลย
พระพุทธอังคีรสประดิษฐานในพระอุโบสถที่ตกแต่งด้วยศิลปะกอทิก
เจดีย์วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม
ภายในวัดมีเจดีย์สีทองขนาดใหญ่อยู่กลางวัดล้อมรอบด้วยพระระเบียง มีพระอุโบสถทางทิศเหนือและพระวิหารทางทิศใต้ ส่วนที่เป็นไฮไลท์ของวัดคือพระอุโบสถที่ด้านนอกเป็นสถาปัตยกรรมแบบไทยแต่ด้านในเป็นศิลปะกอทิกแบบยุโรป ผนังภายในพระอุโบสถมีส่วนสูงเด่นเป็นพิเศษและมีลายเส้นอันซับซ้อนโครงสร้างหลังคาเป็นโค้งแหลมภายในพระอุโบสถประดิษฐานพระพุทธรูปองค์สำคัญคือพระพุทธอังคีรสและพระนิรันตราย ซึ่งทั้งสององค์มีพุทธลักษณะที่งดงามน่าเลื่อมใสศรัทธา โดยสงกรานต์ปีนี้ทางวัดมีการจัดสรงน้ำพระรอบเจดีย์อีกด้วย
นอกจากสองสถานที่ทำบุญที่ "นายรอบรู้" กล่าวไปยังเหลืออีกสองที่ที่อยากแนะนำให้ไปชมกัน คือวัดราชนัดดารามวรวิหารที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 3จุดเด่นของที่นี่คือเมื่อมาถึงจะเห็นโลหะปราสาทเป็นอย่างแรกโลหะปราสาทมียอดทั้งหมด 37 ยอด นับเป็นโลหะปราสาทที่เหลือเพียงแห่งเดียวในโลก ภายในพระอุโบสถมีพระเสฎฐตมมุนีที่หล่อขึ้นจากแร่ทองแดงตั้งประดิษฐานอยู่ อีกสิ่งทำให้วัดนี้แปลกตากว่าที่อื่นคือจิตรกรรมฝาผนังที่วาดเป็นรูปเทวดาจากกลุ่มดาวฤกษ์ทั้ง 27 กลุ่มพร้อมระบุชื่อดาวฤกษ์นั้นๆ ด้วย เช่น ดาวลูกไก่ ดาวม้า ฯลฯ ซึ่งแตกต่างจากวัดอื่นๆ ที่มักวาดเป็นรูปพุทธประวัติและชาดก
พระอุโบสถวัดราชนัดดารามวรวิหาร
ส่วนวัดสุดท้ายขอเอาใจคนไทยเชื้อสายจีนที่อยากทำบุญในวันสงกรานต์ สามารถไปไหว้พระได้ที่วัดทิพยาวารีซึ่งเคยเป็นวัดมอญที่กลายมาเป็นวัดจีนในปัจจุบัน วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ในซอยตลาดบ้านหม้อที่เต็มไปด้วยผู้คนมากมายจุดเด่นในวัดจะมีเทพของชาวจีนประดิษฐานอยู่จำนวนมาก เช่น หมออูโต๋ว, เทพปรองดองหรือเทพแห่งความรัก, เทพขุนพลเอี่ยยิ่ม, องค์ซำกวง หรือเทพ 3 ตา, พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรและเทพมังกรเขียวผู้ปกป้องบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์หรือบ่อน้ำทิพย์อันเป็นที่มาของชื่อวัดแห่งนี้นั่นเอง หลังจากกราบไหว้แล้วอย่าลืมสรงน้ำพระพุทธองค์เล็กด้านหน้าทางเข้าเพื่อเป็นสิริมงคลกับชีวิตในวันสงกรานต์ปีนี้ด้วย
เทพมังกรเขียวผู้ปกป้องบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ในวัดทิพยาวารีวิหาร
นอกจากที่ "นายรอบรู้"แนะนำแล้ว ในเขตพระนครก็ยังมีอีกหลายวัดให้เลือกไปทำบุญได้ตามสะดวก หรือจะไปทำบุญที่วัดอื่นที่ไม่ใช่บริเวณนี้ก็ไม่มีใครว่า เพียงแต่ขอชวนว่าอย่าลืมไปทำบุญกันเยอะๆ ทำบุญให้ตนเอง ครอบครัวและบรรพบุรุษที่ล่วงลับรวมถึงเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ทำแล้วจะมีจิตใจสบาย การงานเจริญก้าวหน้า ร่ำรวยกันจ้า
เรื่องและภาพ: อรรถกร เจนประเสริฐ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น